คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) รายงานผลความก้าวหน้าโครงการเร่งรัดขยายบริการไฟฟ้าโดยระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Home System) จนถึงเดือนสิงหาคม 2548 สรุปได้ดังนี้
1. โครงการฯ ระยะที่ 1 จำนวน 153,000 ครัวเรือน ได้ทำสัญญาจ้างก่อสร้างและติดตั้งระบบ Solar Home System จำนวน 6 สัญญา แบ่งตามพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปัจจุบันติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 118,288 ครัวเรือน (77.31%) ในส่วนนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2548
2. โครงการฯ ระยะที่ 2 จำนวน 50,000 ครัวเรือน เพื่อความคล่องตัว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้ใช้สิทธิตามสัญญาจ้าง โดยขอจ้างเพิ่มเติม 20% (Add Order) จากสัญญาจ้างเดิม จำนวน 21,776 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือจำนวน 28,224 ครัวเรือน ได้ดำเนินการประกวดราคาโดยวิธี e-Auction โดยแบ่งเป็น 2 ประกวดราคา ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับจ้างแล้ว และจะลงนามในสัญญา ในเดือนกันยายน 2548 โดยในส่วนนี้มีกำหนดแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2549
3. สถานะการเบิกจ่าย งบประมาณทั้งสิ้น 5,621.50 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 2,216.51 ล้านบาท
ปัญหาและอุปสรรค
1. เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความตื่นตัวในการรักษาสภาพแวดล้อมโลก ทำให้ทั่วโลกหันมาใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานแสงอาทิตย์ จึงทำให้ราคาเซลล์แสงอาทิตย์มีความผันผวนมาก ส่งผลกระทบต่อการผลิตแผงเซลล์ภายในประเทศ และต่อเนื่องมายังการดำเนินงานของโครงการ Solar Home System
2. ครัวเรือนในเขตพื้นที่ห่างไกลจำนวนมากยังไม่ได้เข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎร์ (ไม่มีเลขที่บ้าน) จึงทำให้ไม่สามารถติดตั้งระบบได้ในระยะแรก ๆ ของการดำเนินการ จนกระทั่งได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของครัวเรือนที่จะสามารถติดตั้งระบบ Solar Home System ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ เช่น รายชื่อครัวเรือนบางส่วนมีการย้ายออก/รื้อถอน ในขณะเดียวกันก็มีครัวเรือนที่มีคุณสมบัติถูกต้องแจ้งขอเข้าโครงการฯ (ตกสำรวจ, บ้านสร้างใหม่) ทำให้ผู้รับจ้างต้องใช้ระยะเวลาเข้า-ออกพื้นที่มากขึ้น
ซึ่งปัญหาข้างต้นส่งผลให้การดำเนินการล่าช้ากว่าแผนงานเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค ได้ประสานงานและเร่งรัดผู้รับจ้าง ให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จตามกำหนดข้างต้น
ผลตอบรับจากประชาชน
จากการดำเนินงานติดตั้งระบบฯ ไปแล้วกว่า 118,288 ครัวเรือน ปรากฏว่าประชาชนได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ทั้งในด้านการรับรู้ข่าวสาร และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การเพิ่มผลผลิตในยามค่ำคืน การชาร์จแบตเตอรี่สำหรับส่องสว่างในงานกรีดยาง การชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้ในการสื่อสาร เป็นต้น ดังจะเห็นได้ว่าหลังการดำเนินงานติดตั้งระบบฯ แล้วระยะหนึ่งได้มีประชาชนแจ้งความประสงค์ขอติดตั้งระบบเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับทราบถึงประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้กล่าว ข้างต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548--จบ--
1. โครงการฯ ระยะที่ 1 จำนวน 153,000 ครัวเรือน ได้ทำสัญญาจ้างก่อสร้างและติดตั้งระบบ Solar Home System จำนวน 6 สัญญา แบ่งตามพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปัจจุบันติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 118,288 ครัวเรือน (77.31%) ในส่วนนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2548
2. โครงการฯ ระยะที่ 2 จำนวน 50,000 ครัวเรือน เพื่อความคล่องตัว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้ใช้สิทธิตามสัญญาจ้าง โดยขอจ้างเพิ่มเติม 20% (Add Order) จากสัญญาจ้างเดิม จำนวน 21,776 ครัวเรือน ส่วนที่เหลือจำนวน 28,224 ครัวเรือน ได้ดำเนินการประกวดราคาโดยวิธี e-Auction โดยแบ่งเป็น 2 ประกวดราคา ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับจ้างแล้ว และจะลงนามในสัญญา ในเดือนกันยายน 2548 โดยในส่วนนี้มีกำหนดแล้วเสร็จเดือนพฤษภาคม 2549
3. สถานะการเบิกจ่าย งบประมาณทั้งสิ้น 5,621.50 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายแล้ว 2,216.51 ล้านบาท
ปัญหาและอุปสรรค
1. เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับความตื่นตัวในการรักษาสภาพแวดล้อมโลก ทำให้ทั่วโลกหันมาใช้พลังงานทดแทนกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานแสงอาทิตย์ จึงทำให้ราคาเซลล์แสงอาทิตย์มีความผันผวนมาก ส่งผลกระทบต่อการผลิตแผงเซลล์ภายในประเทศ และต่อเนื่องมายังการดำเนินงานของโครงการ Solar Home System
2. ครัวเรือนในเขตพื้นที่ห่างไกลจำนวนมากยังไม่ได้เข้าสู่ระบบทะเบียนราษฎร์ (ไม่มีเลขที่บ้าน) จึงทำให้ไม่สามารถติดตั้งระบบได้ในระยะแรก ๆ ของการดำเนินการ จนกระทั่งได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของครัวเรือนที่จะสามารถติดตั้งระบบ Solar Home System ได้ นอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ เช่น รายชื่อครัวเรือนบางส่วนมีการย้ายออก/รื้อถอน ในขณะเดียวกันก็มีครัวเรือนที่มีคุณสมบัติถูกต้องแจ้งขอเข้าโครงการฯ (ตกสำรวจ, บ้านสร้างใหม่) ทำให้ผู้รับจ้างต้องใช้ระยะเวลาเข้า-ออกพื้นที่มากขึ้น
ซึ่งปัญหาข้างต้นส่งผลให้การดำเนินการล่าช้ากว่าแผนงานเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม การไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค ได้ประสานงานและเร่งรัดผู้รับจ้าง ให้การดำเนินโครงการแล้วเสร็จตามกำหนดข้างต้น
ผลตอบรับจากประชาชน
จากการดำเนินงานติดตั้งระบบฯ ไปแล้วกว่า 118,288 ครัวเรือน ปรากฏว่าประชาชนได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ทั้งในด้านการรับรู้ข่าวสาร และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การเพิ่มผลผลิตในยามค่ำคืน การชาร์จแบตเตอรี่สำหรับส่องสว่างในงานกรีดยาง การชาร์จแบตเตอรี่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อใช้ในการสื่อสาร เป็นต้น ดังจะเห็นได้ว่าหลังการดำเนินงานติดตั้งระบบฯ แล้วระยะหนึ่งได้มีประชาชนแจ้งความประสงค์ขอติดตั้งระบบเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับทราบถึงประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้กล่าว ข้างต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2548--จบ--