1. การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ดังนี้ ด้านนิติศาสตร์ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายวัฒนา รัตนวิจิตร ด้านเศรษฐศาสตร์ นายปรีชา จรุงกิจอนันต์ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ ด้านรัฐศาสตร์ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ด้านการบริหารรัฐกิจ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย ด้านการบริหารธุรกิจ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ด้านการเงินการคลัง หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล นายพายัพ พยอมยนต์ ด้านจิตวิทยาองค์การ นายสมภพ อมาตยกุล นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ ด้านสังคมวิทยา นายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์
นายวุฒิสาร ตันไชย
โดยมีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานเต็มเวลา ดังนี้ 1. นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร 2. นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย 3. นายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์ 4. นายสมภพ อมาตยกุล 5. นายปรีชา จรุงกิจอนันต์ 6. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ทั้งนี้ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย และนายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. ที่ทำงานเต็มเวลาชุดเดิมได้ให้ความยินยอมว่ายินดีที่จะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. ที่ต้องทำงานเต็มเวลา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
2. การเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (กระทรวงยุติธรรม)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน 2 คณะ ดังนี้
1. คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 โดยมีนายประจักษ์ พุทธิสมบัติ เป็นประธานกรรมการ นายวิศิษฏ์ วิศิษฎ์สรอรรถ เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 23 คน มีอำนาจหน้าที่พิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
2. คณะกรรมการพิจารณาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาเฉพาะด้านกฎหมายมหาชน สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 13 คน มีอำนาจหน้าที่หลัก คือ พิจารณากำหนดกรอบความร่วมมือและดำเนินการ ทั้งในส่วนนโยบายและการปฏิบัติเพื่อขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศกับสหพันธรัฐรัสเซีย ภายใต้กรอบความตกลงร่วมกันในระดับสูงและอำนาจหน้าที่อื่นอีก 5 ประการ
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า ให้คงคณะกรรมการ จำนวน 2 คณะ ไว้ โดยคณะกรรมการตามข้อ 2 ให้มีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามเดิม ส่วนคณะกรรมการตามข้อ 1 ขอปรับปรุงองค์ประกอบใหม่ในส่วนของคณะกรรมการอื่นจากเดิม 24 คน เป็น 23 คน เนื่องจากนายสุธีร์ ศุภนิตย์ได้ถึงแก่กรรม
3. ขออนุมัติตั้งคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป โดยมีองค์ประกอบและอำนาจ หน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ สกสค.) ผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย จำนวน 3 คน ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน 3 คน โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการ ก.ค.ศ.มอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการ ก.ค.ศ. มอบหมาย จำนวน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่
1. กำหนดนโยบายการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเงินทุนหมุนเวียน
2. กำหนดระเบียบ ข้อบังคับหลักเกณฑ์ วิธีการ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้
3. พิจารณาจัดสรรเงินให้กู้ยืม
4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่น ๆ เพื่อช่วยดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่มอบหมาย
5. พิจารณาและกำหนดมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
6. ตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการให้กู้ยืม และรายงานให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางทราบ
7. ปฏิบัติงานอื่นตามที่กำหนดในระเบียบนี้
4. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งนางพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย แทนนายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ซึ่งลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
5. การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
6. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ลาออก จำนวน 6 คน ดังนี้ 1. นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2. นายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3. นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 4. พลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 5. นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม 6. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
7. แต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นตำแหน่งก่อนครบวาระ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ให้แต่งตั้งนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป โดยให้ดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
8. การเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และให้ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลในส่วนของคณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสงฆ์และคณะกรรมการอำนวยการฝ่ายฆราวาส ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสงฆ์
(1) มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานกรรมการ กรรมการอื่นอีก 35 คน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของคณะกรรมการ ดังนี้
ตำแหน่ง เดิม ใหม่
กรรมการ พระธรรมสิทธิเวที วัดสระเกศ พระพรหมสุธี วัดสระเกศ
กรรมการ พระเทพมุนี วัดปากน้ำ พระธรรมปัญญาภรณ์ วัดปากน้ำ
(2) มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้เป็นพุทธอุทยานศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยสืบต่อไป และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 2 ประการ
2. คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายฆราวาส
(1) ในส่วนของคณะกรรมการที่ปรึกษา มีกรรมการ 4 คน ในส่วนคณะกรรมการอำนวยการมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ กรรมการอื่นอีก 43 คน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของคณะกรรมการ ดังนี้
ตำแหน่ง เดิม ใหม่
รองประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีประจำสำนักนายก
รัฐมนตรี ที่กำกับการบริหารราชการหรือที่ได้รับ
มอบหมายและมอบอำนาจ
กรรมการ มีกรรมการ 41 คน มีกรรมการ 43 คน โดยเพิ่มปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
และปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
(2) มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นพุทธศาสนสถานที่สำคัญของประเทศไทย และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 3 ประการ
9. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งนายมานะ หลักทอง ผู้อำนวยการสำนัก (นิติกร 9) สำนักกฎหมาย กรมศุลกากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกร 10 ชช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
10. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา แทนกรรมการที่ลาออกและแต่งตั้งเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นายยนต์ มุสิก เป็นกรรมการอื่นแทน นางจิณาภา ทรัพย์วิสุทธิ์ ที่ลาออก 2. นายเปรมสันต์ ศีลปพิพัฒน์ เป็นกรรมการอื่นเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
11. ขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย (กระทรวงศึกษาธิการ)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า
1. โดยที่รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมเข้มแข็งที่คนในชาติอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างสมานฉันท์บนพื้นฐานของคุณธรรม นโยบายด้านการศึกษาจึงเร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาโดยยึดคุณธรรมนำความรู้ ดังนั้น เพื่อให้ ทิศทางและเป้าหมายการจัดการศึกษาของประเทศสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่เน้นคุณธรรมนำความรู้ กระทรวงศึกษาธิการ จึงกำหนดกรอบการดำเนินงานที่จะ “เสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย” ดังนี้
1.1 จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางการดำเนินงานพร้อมการกำกับติดตามและประเมินผลการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย
1.2 ปรับปรุงหลักสูตรโดยเน้นการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมในทุกระดับและประเภทการศึกษา
1.3 ให้มีการพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอย่างจริงจังเป็นระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เป็นต้นแบบ “คนดี” และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่บูรณาการในการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน
1.4 เพื่อให้บังเกิดผลทางปฏิบัติ จะได้มีการค้นหาและสร้างเครือข่ายคุณธรรมใน 175 เขตพื้นที่การศึกษาและในระดับสถานศึกษา โดยเชื่อมโยงความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำกับสถาบันครอบครัว สถาบันศาสนาและสถาบันการศึกษา
2. เพื่อให้การเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทยตามแนวนโยบายของรัฐบาลบรรลุตามวัตถุประสงค์ จำเป็นต้องมีกลไกขับเคลื่อนงานในทุกภาคส่วนและระดับต่าง ๆ จึงเสนอขอแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้าง คุณธรรมในระบบการศึกษาไทย โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
2.1 องค์ประกอบ จำนวน 42 คน ประกอบด้วย ศาสตราจารย์เกษม วัฒนชัย นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นรองประธานกรรมการ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่นอีก 38 คน
2.2 ให้คณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย มีอำนาจหน้าที่กำหนดทิศทาง นโยบาย ยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย จัดทำข้อเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐบาลให้การสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงาน เร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับและนำไปปฏิบัติจริง พร้อมกำกับ ติดตามและประเมินผล แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อช่วยดำเนินงาน ด้านต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควร ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
12. เรื่อง แต่งตั้ง (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี)
1. คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 252/2549 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ดังต่อไปนี้
1. รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล)
- การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยราชบัณฑิตยสถาน
2. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล)
2.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
2.1.1 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
2.1.2 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป
2. คณะรัฐมนตรีรับทราบ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 253/2549 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ดังนี้
1. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
- กรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
2. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
2.1 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่า สายสะพาย
2.2 คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ
3. คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 254/2549 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ดังนี้
ลำดับที่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ปฏิบัติราชการแทนตามลำดับ
1. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ 1. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์
2. นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล
2. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ 1. นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล
2. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
3. นายประสิทธิ โฆวิไลกูล 1. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
2. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป
13. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์)
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 259/2549 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 1 ราย คือ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
14. แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1126/2549 เรื่อง แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำนวน 1 ราย คือ นายธนูญ ตันติสุนทร เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
15. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ชุดใหม่ จำนวน 8 ราย ดังนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิ 1. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา 2. นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ 3. นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ 4. นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร 5. นายสุธรรม วิชชุไตรภพ 6. นายสุรชัย ศิริมัย 7. นายภิญโญ เกียรติภิญโญ 8. นายเกียรติศักดิ์ ตั้งเจริญสุทธิชัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
16. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้แต่งตั้งนายอุทิศ ขาววิเธียร เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ แทนกรรมการอื่นที่ว่างลง
17. แต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ให้แต่งตั้งนายสันติ สาทิพย์พงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)
18. ขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา จากนายนคร ศิลปอาชา เป็น นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์
19. แต่งตั้งประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเสนอ ให้แต่งตั้ง นายจรัญ จันทลักขณา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาเกษตรศาสตร์ในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยชุดปัจจุบันเป็นประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยแทน นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง
20. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้แต่งตั้งนายครรชิต ผิวนวล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยแทนกรรมการอื่นที่ว่างลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ดังนี้ ด้านนิติศาสตร์ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ นายวัฒนา รัตนวิจิตร ด้านเศรษฐศาสตร์ นายปรีชา จรุงกิจอนันต์ นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ ด้านรัฐศาสตร์ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ด้านการบริหารรัฐกิจ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย ด้านการบริหารธุรกิจ นายสมพล เกียรติไพบูลย์ นายวัชระ พรรณเชษฐ์ ด้านการเงินการคลัง หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล นายพายัพ พยอมยนต์ ด้านจิตวิทยาองค์การ นายสมภพ อมาตยกุล นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ ด้านสังคมวิทยา นายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์
นายวุฒิสาร ตันไชย
โดยมีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิที่ทำงานเต็มเวลา ดังนี้ 1. นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร 2. นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย 3. นายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์ 4. นายสมภพ อมาตยกุล 5. นายปรีชา จรุงกิจอนันต์ 6. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ
ทั้งนี้ นายมนุชญ์ วัฒนโกเมร นางสาวอรพินท์ สพโชคชัย และนายธรรมรักษ์ การพิศิษฐ์ ซึ่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. ที่ทำงานเต็มเวลาชุดเดิมได้ให้ความยินยอมว่ายินดีที่จะเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.พ.ร. ที่ต้องทำงานเต็มเวลา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
2. การเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (กระทรวงยุติธรรม)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งให้คงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จำนวน 2 คณะ ดังนี้
1. คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 โดยมีนายประจักษ์ พุทธิสมบัติ เป็นประธานกรรมการ นายวิศิษฏ์ วิศิษฎ์สรอรรถ เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 23 คน มีอำนาจหน้าที่พิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483
2. คณะกรรมการพิจารณาความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษาเฉพาะด้านกฎหมายมหาชน สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นกรรมการและเลขานุการ และมีกรรมการอื่นอีก 13 คน มีอำนาจหน้าที่หลัก คือ พิจารณากำหนดกรอบความร่วมมือและดำเนินการ ทั้งในส่วนนโยบายและการปฏิบัติเพื่อขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างประเทศกับสหพันธรัฐรัสเซีย ภายใต้กรอบความตกลงร่วมกันในระดับสูงและอำนาจหน้าที่อื่นอีก 5 ประการ
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมยืนยันว่า ให้คงคณะกรรมการ จำนวน 2 คณะ ไว้ โดยคณะกรรมการตามข้อ 2 ให้มีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ตามเดิม ส่วนคณะกรรมการตามข้อ 1 ขอปรับปรุงองค์ประกอบใหม่ในส่วนของคณะกรรมการอื่นจากเดิม 24 คน เป็น 23 คน เนื่องจากนายสุธีร์ ศุภนิตย์ได้ถึงแก่กรรม
3. ขออนุมัติตั้งคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียนเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2549 เป็นต้นไป โดยมีองค์ประกอบและอำนาจ หน้าที่ ดังนี้
องค์ประกอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ ก.ค.ศ.) เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (เลขาธิการ สกสค.) ผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. มอบหมาย จำนวน 3 คน ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง จำนวน 3 คน โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการ ก.ค.ศ.มอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่ที่เลขาธิการ ก.ค.ศ. มอบหมาย จำนวน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่
1. กำหนดนโยบายการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของเงินทุนหมุนเวียน
2. กำหนดระเบียบ ข้อบังคับหลักเกณฑ์ วิธีการ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้
3. พิจารณาจัดสรรเงินให้กู้ยืม
4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการอื่น ๆ เพื่อช่วยดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่มอบหมาย
5. พิจารณาและกำหนดมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครู
6. ตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการให้กู้ยืม และรายงานให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางทราบ
7. ปฏิบัติงานอื่นตามที่กำหนดในระเบียบนี้
4. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งนางพรทิพย์ จาละ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย แทนนายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล ซึ่งลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
5. การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นหลักการตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
6. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ลาออก จำนวน 6 คน ดังนี้ 1. นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2. นายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3. นายวุฒิพันธ์ วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 4. พลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก 5. นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม 6. นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
7. แต่งตั้งกรรมการที่เป็นผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นตำแหน่งก่อนครบวาระ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ ให้แต่งตั้งนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในคณะกรรมการการอุดมศึกษาแทนผู้ที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป โดยให้ดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
8. การเสนอให้คณะกรรมการต่าง ๆ ที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคงอยู่ (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และให้ปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลในส่วนของคณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสงฆ์และคณะกรรมการอำนวยการฝ่ายฆราวาส ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ ดังนี้
1. คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายสงฆ์
(1) มีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานกรรมการ กรรมการอื่นอีก 35 คน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของคณะกรรมการ ดังนี้
ตำแหน่ง เดิม ใหม่
กรรมการ พระธรรมสิทธิเวที วัดสระเกศ พระพรหมสุธี วัดสระเกศ
กรรมการ พระเทพมุนี วัดปากน้ำ พระธรรมปัญญาภรณ์ วัดปากน้ำ
(2) มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้เป็นพุทธอุทยานศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยสืบต่อไป และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 2 ประการ
2. คณะกรรมการอำนวยการฝ่ายฆราวาส
(1) ในส่วนของคณะกรรมการที่ปรึกษา มีกรรมการ 4 คน ในส่วนคณะกรรมการอำนวยการมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ กรรมการอื่นอีก 43 คน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของคณะกรรมการ ดังนี้
ตำแหน่ง เดิม ใหม่
รองประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีประจำสำนักนายก
รัฐมนตรี ที่กำกับการบริหารราชการหรือที่ได้รับ
มอบหมายและมอบอำนาจ
กรรมการ มีกรรมการ 41 คน มีกรรมการ 43 คน โดยเพิ่มปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
และปลัดกระทรวงวัฒนธรรม
(2) มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นพุทธศาสนสถานที่สำคัญของประเทศไทย และอำนาจหน้าที่อื่นอีก 3 ประการ
9. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ระดับ 10 (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้แต่งตั้งนายมานะ หลักทอง ผู้อำนวยการสำนัก (นิติกร 9) สำนักกฎหมาย กรมศุลกากร ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกร 10 ชช.) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
10. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสะพานปลา แทนกรรมการที่ลาออกและแต่งตั้งเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ 1. นายยนต์ มุสิก เป็นกรรมการอื่นแทน นางจิณาภา ทรัพย์วิสุทธิ์ ที่ลาออก 2. นายเปรมสันต์ ศีลปพิพัฒน์ เป็นกรรมการอื่นเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
11. ขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย (กระทรวงศึกษาธิการ)
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการรายงานว่า
1. โดยที่รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมเข้มแข็งที่คนในชาติอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างสมานฉันท์บนพื้นฐานของคุณธรรม นโยบายด้านการศึกษาจึงเร่งรัดการปฏิรูปการศึกษาโดยยึดคุณธรรมนำความรู้ ดังนั้น เพื่อให้ ทิศทางและเป้าหมายการจัดการศึกษาของประเทศสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่เน้นคุณธรรมนำความรู้ กระทรวงศึกษาธิการ จึงกำหนดกรอบการดำเนินงานที่จะ “เสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย” ดังนี้
1.1 จัดทำนโยบาย ยุทธศาสตร์ แนวทางการดำเนินงานพร้อมการกำกับติดตามและประเมินผลการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย
1.2 ปรับปรุงหลักสูตรโดยเน้นการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างคุณธรรมในทุกระดับและประเภทการศึกษา
1.3 ให้มีการพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษาอย่างจริงจังเป็นระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เป็นต้นแบบ “คนดี” และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่บูรณาการในการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน
1.4 เพื่อให้บังเกิดผลทางปฏิบัติ จะได้มีการค้นหาและสร้างเครือข่ายคุณธรรมใน 175 เขตพื้นที่การศึกษาและในระดับสถานศึกษา โดยเชื่อมโยงความร่วมมือ ร่วมคิด ร่วมทำกับสถาบันครอบครัว สถาบันศาสนาและสถาบันการศึกษา
2. เพื่อให้การเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทยตามแนวนโยบายของรัฐบาลบรรลุตามวัตถุประสงค์ จำเป็นต้องมีกลไกขับเคลื่อนงานในทุกภาคส่วนและระดับต่าง ๆ จึงเสนอขอแต่งตั้งคณะกรรมการเสริมสร้าง คุณธรรมในระบบการศึกษาไทย โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
2.1 องค์ประกอบ จำนวน 42 คน ประกอบด้วย ศาสตราจารย์เกษม วัฒนชัย นายสุเมธ ตันติเวชกุล เป็นที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการสภาการศึกษา เป็นรองประธานกรรมการ รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นกรรมการและเลขานุการ และกรรมการอื่นอีก 38 คน
2.2 ให้คณะกรรมการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย มีอำนาจหน้าที่กำหนดทิศทาง นโยบาย ยุทธศาสตร์และแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้างคุณธรรมในระบบการศึกษาไทย จัดทำข้อเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐบาลให้การสนับสนุนส่งเสริมการดำเนินงาน เร่งรัดให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับและนำไปปฏิบัติจริง พร้อมกำกับ ติดตามและประเมินผล แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานเพื่อช่วยดำเนินงาน ด้านต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควร ตลอดจนปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
12. เรื่อง แต่งตั้ง (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี)
1. คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 252/2549 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี (ฉบับที่ 2) ดังต่อไปนี้
1. รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ ปรีดิยาธร เทวกุล)
- การสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยราชบัณฑิตยสถาน
2. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล)
2.1 การมอบหมายและมอบอำนาจให้สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ดังนี้
2.1.1 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
2.1.2 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป
2. คณะรัฐมนตรีรับทราบ คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 253/2549 เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการ ดังนี้
1. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ในคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย
- กรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
2. การมอบหมายและมอบอำนาจให้ปฏิบัติหน้าที่ประธานกรรมการในคณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
2.1 คณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นต่ำกว่า สายสะพาย
2.2 คณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ
3. คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 254/2549 เรื่อง ปรับปรุงคำสั่งมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนกัน ดังนี้
ลำดับที่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ปฏิบัติราชการแทนตามลำดับ
1. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ 1. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์
2. นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล
2. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ 1. นายประสิทธิ์ โฆวิไลกูล
2. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
3. นายประสิทธิ โฆวิไลกูล 1. คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์
2. นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 เป็นต้นไป
13. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์)
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 259/2549 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 1 ราย คือ พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
14. แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1126/2549 เรื่อง แต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จำนวน 1 ราย คือ นายธนูญ ตันติสุนทร เป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
15. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ชุดใหม่ จำนวน 8 ราย ดังนี้ ผู้ทรงคุณวุฒิ 1. นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา 2. นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ 3. นายธีรพงษ์ ตั้งธีระสุนันท์ 4. นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ผู้แทนเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร 5. นายสุธรรม วิชชุไตรภพ 6. นายสุรชัย ศิริมัย 7. นายภิญโญ เกียรติภิญโญ 8. นายเกียรติศักดิ์ ตั้งเจริญสุทธิชัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป
16. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้แต่งตั้งนายอุทิศ ขาววิเธียร เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ แทนกรรมการอื่นที่ว่างลง
17. แต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ให้แต่งตั้งนายสันติ สาทิพย์พงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)
18. ขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ขอเปลี่ยนแปลงผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา จากนายนคร ศิลปอาชา เป็น นายไพโรจน์ สุขสัมฤทธิ์
19. แต่งตั้งประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัยเสนอ ให้แต่งตั้ง นายจรัญ จันทลักขณา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสาขาเกษตรศาสตร์ในคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยชุดปัจจุบันเป็นประธานกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนการวิจัยแทน นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง
20. แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ให้แต่งตั้งนายครรชิต ผิวนวล เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยแทนกรรมการอื่นที่ว่างลง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2549--จบ--