คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอการขอขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ออกไปอีก 1 ปี (ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2549 ถึงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2550) และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดให้มีการเผยแพร่รายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อสาธารณชนต่อไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอตามรายงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่า
1. นับแต่วันเริ่มใช้บังคับพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ได้มีการขอขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกามาแล้ว 3 ครั้ง คือในปี 2546 ปี 2547 และปี 2548 เหตุที่ยังไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกาได้อีก เนื่องจากยังต้องมีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาระบบเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนคนไทยทุกคนจะมีหลักประกันในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ในปีที่ผ่านมาได้มีตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้บุคคลตามมาตรา 9 ใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ไปแล้ว 1 กลุ่ม คือ พระราชกฤษฎีกากำหนดให้บิดามารดา คู่สมรส และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2549 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2549 ส่วนกรณีกลุ่มบุคคลอื่น ๆ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ
3. สำหรับกรณีของบุคคลตามมาตรา 10 การขยายบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ไปยังผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิมีส่วนร่วมจ่ายเงินสมทบในเงินกองทุนด้วย การพัฒนาจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2550--จบ--
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอตามรายงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่า
1. นับแต่วันเริ่มใช้บังคับพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ได้มีการขอขยายระยะเวลาในการตราพระราชกฤษฎีกามาแล้ว 3 ครั้ง คือในปี 2546 ปี 2547 และปี 2548 เหตุที่ยังไม่อาจตราพระราชกฤษฎีกาได้อีก เนื่องจากยังต้องมีการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาระบบเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนคนไทยทุกคนจะมีหลักประกันในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
2. ในปีที่ผ่านมาได้มีตราพระราชกฤษฎีกากำหนดให้บุคคลตามมาตรา 9 ใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ไปแล้ว 1 กลุ่ม คือ พระราชกฤษฎีกากำหนดให้บิดามารดา คู่สมรส และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของครูใหญ่หรือครูโรงเรียนเอกชนใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 พ.ศ. 2549 โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2549 ส่วนกรณีกลุ่มบุคคลอื่น ๆ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบ
3. สำหรับกรณีของบุคคลตามมาตรา 10 การขยายบริการสาธารณสุขตามพระราชบัญญัตินี้ไปยังผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้มีสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคมเป็นผู้ซึ่งมีสิทธิมีส่วนร่วมจ่ายเงินสมทบในเงินกองทุนด้วย การพัฒนาจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2550--จบ--