คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุม ASEAN Tourism Forum 2010 ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ดังนี้
เรื่องเดิม
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน ครั้งที่ 13 การประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ครั้งที่ 9 และการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวของอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 23-26 มกราคม 2553 ณ กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน ประเทศบรูไนดารุสซาลาม โดยมีสาระสำคัญในการประชุม ได้แก่ แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน 2553 — 2558 ความคืบหน้าของความเชื่อมโยงกันของอาเซียน (ASEAN Connectivity) ตลอดจนการดำเนินงานในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ยุทธศาสตร์การตลาด การลงทุน การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และความร่วมมือของอาเซียนกับคู่เจรจา (Dialogue Partners)
ข้อเท็จจริง
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมฯ ดังกล่าว สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. เลขาธิการอาเซียน (นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ) ได้แจ้งสาระสำคัญของผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนให้ที่ประชุมฯ รับทราบ ในภาพรวม เป็นการเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดของรัฐมนตรีอาเซียนทั้ง 12 สาขา เพื่อนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ความคืบหน้าการดำเนินงานตาม Roadmap for ASEAN Community และเห็นพ้องกันว่าการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก จึงขอให้รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนร่วมมือกันเพื่อให้มติดังกล่าวเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
2. ที่ประชุมรัฐมนตรีฯ เห็นชอบข้อเสนอของประเทศไทยในการเพิ่มข้อความที่บรรจุในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 14 ซึ่งกล่าวถึงแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียน พ.ศ. 2553 — 2558 การส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Tourism Connectivity Corridors) การสนับสนุนการเดินทางท่องเที่ยวของเยาวชนและมาตรการจูงใจ (Incentives) ลงในสาระสำคัญของผลการดำเนินงานตามมติที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
3. ประเทศไทยได้ขอให้ประเทศสมาชิกมีความเป็นเอกภาพและมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้มติที่ประชุมคณะทำงานต่าง ๆ เกิดผลสำเร็จ ซึ่งอาจทำได้โดยการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในประเทศตนเองหรือประเทศสมาชิกอื่น หรือให้การสนับสนุนงบประมาณ พร้อมทั้งขอให้สำนักเลขาธิการอาเซียนสนับสนุนให้มีประเด็นเรื่องการท่องเที่ยวบรรจุในวาระการประชุมสุดยอดอาเซียน และควรให้แผนยุทธศาสตร์ฯ กำหนดให้มีการจัดเก็บสถิติการท่องเที่ยวอาเซียนให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยอาจขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการจากองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO)
4. ประเทศไทยในฐานะประธานคณะทำงานด้านมาตรฐานการท่องเที่ยวอาเซียน (Task Force on ASEAN Tourism Standards) ได้จัดพิธีมอบรางวัลโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของอาเซียน (ASEAN Green Hotel Award) โดยรัฐมนตรีท่องเที่ยวของทุกประเทศเป็นผู้มอบรางวัลให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของตน เพื่อมอบให้กับโรงแรมที่ได้รับรางวัลใน แต่ละประเทศต่อไป ในการนี้ ประเทศไทยได้มอบทำเนียบ ASEAN Green Hotel และ ทำเนียบ ASEAN Homestay ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนนำกลับไปเผยแพร่ที่ประเทศของตนด้วย
5. ที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน-จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ครั้งที่ 9 ยินดีกับความสำเร็จในการจัดกิจกรรมร่วมกันของอาเซียน-จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมความก้าวหน้าของแผนงานความร่วมมือปี พ.ศ. 2550 — 2560 อาทิ การจัดงาน China — ASEAN Tourism Cooperation Forum ณ นครคุนหมิง กิจกรรมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคที่จัดโดยเกาหลีร่วมกับอาเซียนในด้านการส่งเสริมการตลาดและการมีจุดหมายปลายทางร่วมกัน การจัด ASEAN Tourism Fair ณ ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ รัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียนขอให้ญี่ปุ่นสนับสนุนเรื่องการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยวทางเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือสำราญ
6. ที่ประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวของอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 2 รับทราบความสำเร็จของกิจกรรมความร่วมมืออาเซียน-อินเดียในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดตั้ง ASEAN Tourism Promotional Chapter (APCT) ณ เมืองมุมไบ และรับทราบมติการประชุม ASEAN-India Summit ครั้งที่ 7 ณ อำเภอหัวหิน เกี่ยวกับนโยบายของอินเดียในเรื่อง Look East Policy กรอบความร่วมมือในการเปิดเสรีสายการบินระหว่างอาเซียน-อินเดีย และการพัฒนา East — West Economic Corridor (India-Myanmar-Thailand)
7. สำหรับกิจกรรมส่งเสริมการขาย (TRAVEX) ภายใต้แนวคิด ASEAN The Heart of Green การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้จัดพื้นที่ (display)ในการให้ข่าวสาร เจรจาธุรกิจ นำเสนอข้อมูลสินค้าและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวภายใต้หัวข้อ “Amazing Thailand Amazing Value” ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย Sellers 339 ราย Buyers 350 ราย และสื่อมวลชน 100 ราย จากการพบปะระหว่าง Buyers จากภูมิภาคต่างๆ (อเมริกา ยุโรป และเอเชีย) ประมาณ 40 ราย กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย Buyers แสดงความสนใจในการเข้าร่วม Fam Trip และเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย และขอความร่วมมือในการทำ Joint Promotion ในตลาดของตนเอง พร้อมทั้งขอข้อมูลและเอกสารการท่องเที่ยว รวมทั้งผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวใหม่ๆ ของประเทศไทย เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agro-Tourism) เป็นต้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 เมษายน 2553--จบ--