คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 1 ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) เป็นประธาน ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้ปรับปรุงแก้ไขตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ สำหรับประเด็นอภิปรายที่ว่า ควรมีการพิจารณาทบทวนอัตราค่าเช่าที่พักในต่างประเทศ ในบัญชีหมายเลข 7 ในประเภท ข และ ค ให้ สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ได้ข้อยุติ และแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว เพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไข ตามข้อยุติดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. การเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 (2) ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ให้กระทรวงการคลังดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ต่อไป
กระทรวงการคลังเสนอว่า ในปัจจุบันมีระเบียบกระทรวงและหนังสือเวียนที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ เดินทางไปราชการหลายฉบับ ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงาน จึงเห็นสมควรปรับปรุง แก้ไข โดยนำหลักเกณฑ์ตามระเบียบและหนังสือสั่งการต่าง ๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการนำมารวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไข หลักเกณฑ์และอัตราการเบิกจ่ายให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพื่อความสะดวกคล่องตัว เอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของส่วนราชการในการศึกษาอ้างอิงและลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็น จึงได้เสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายนาการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ และเนื่องจากร่างระเบียบดังกล่าว ได้กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการกรณีต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจหรือความจำเป็นอื่น ๆ จึงได้เสนอขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกำหนดและประกาศใช้ระเบียบฯ โดยไม่ต้องเสนอร่างระเบียบฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ยกเลิกระเบียบดังต่อไปนี้
1.1 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าที่พักในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.2 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเดินทางไปราชการโดยยานพาหนะประจำทาง พ.ศ.2533 และหนังสือซ้อมความเข้าใจ
1.3 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการใช้ยานพาหนะส่วนตัวเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.4 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด่วยการเบิกค่าเครื่องแต่งตัวข้าราชการที่เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.5 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการย้ายถิ่นที่อยู่ของข้าราชการหรือลูกจ้างในกรณีคู่สมรสหรือบุตรเดินทางกลับประเทศไทยก่อน พ.ศ. 2526 และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าขนย้าย ค่าพาหนะรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดและรถไฟ เป็นต้น (หมวดที่ 1)
3. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าเครื่องแต่งตัว เป็นต้น (หมวดที่ 2)
4. กำหนดวิธีการเบิกจ่ายเงิน (หมวดที่ 3)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--
1. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้ปรับปรุงแก้ไขตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองฯ สำหรับประเด็นอภิปรายที่ว่า ควรมีการพิจารณาทบทวนอัตราค่าเช่าที่พักในต่างประเทศ ในบัญชีหมายเลข 7 ในประเภท ข และ ค ให้ สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ให้กระทรวงพาณิชย์รับไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ได้ข้อยุติ และแจ้งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว เพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไข ตามข้อยุติดังกล่าว แล้วดำเนินการต่อไปได้
2. การเสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 21 (2) ของพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 ให้กระทรวงการคลังดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้สอดคล้องตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ต่อไป
กระทรวงการคลังเสนอว่า ในปัจจุบันมีระเบียบกระทรวงและหนังสือเวียนที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการ เดินทางไปราชการหลายฉบับ ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติงาน จึงเห็นสมควรปรับปรุง แก้ไข โดยนำหลักเกณฑ์ตามระเบียบและหนังสือสั่งการต่าง ๆ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการนำมารวมไว้เป็นฉบับเดียวกัน พร้อมทั้งปรับปรุงแก้ไข หลักเกณฑ์และอัตราการเบิกจ่ายให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เพื่อความสะดวกคล่องตัว เอื้อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของส่วนราชการในการศึกษาอ้างอิงและลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็น จึงได้เสนอร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายนาการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ และเนื่องจากร่างระเบียบดังกล่าว ได้กำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการกรณีต่าง ๆ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจหรือความจำเป็นอื่น ๆ จึงได้เสนอขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี ให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกำหนดและประกาศใช้ระเบียบฯ โดยไม่ต้องเสนอร่างระเบียบฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2548
ร่างระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้ยกเลิกระเบียบดังต่อไปนี้
1.1 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าที่พักในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.2 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเดินทางไปราชการโดยยานพาหนะประจำทาง พ.ศ.2533 และหนังสือซ้อมความเข้าใจ
1.3 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการใช้ยานพาหนะส่วนตัวเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.4 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด่วยการเบิกค่าเครื่องแต่งตัวข้าราชการที่เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
1.5 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการย้ายถิ่นที่อยู่ของข้าราชการหรือลูกจ้างในกรณีคู่สมรสหรือบุตรเดินทางกลับประเทศไทยก่อน พ.ศ. 2526 และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
2. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในราชอาณาจักร เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าขนย้าย ค่าพาหนะรถโดยสารประจำทางระหว่างจังหวัดและรถไฟ เป็นต้น (หมวดที่ 1)
3. กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ เช่น ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก ค่าเครื่องแต่งตัว เป็นต้น (หมวดที่ 2)
4. กำหนดวิธีการเบิกจ่ายเงิน (หมวดที่ 3)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--