คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการถ่ายโอนบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกปกครองส่วนท้องถิ่นตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เสนอ ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550 ดังนี้
1. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารการถ่ายโอนภารกิจบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรุงเทพมหานคร และระดับจังหวัด เพื่อเป็นองค์กรกลางในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจ บุคลากร และงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของ ศธ. กรุงเทพมหานคร และในระดับจังหวัด
2. ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. เพื่อสรรหาบุคลากรทดแทนบุคลากรที่ไม่สมัครใจโอนไปสังกัด อปท. และบุคลากรที่ต่ำกว่าเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นกรณีพิเศษ โดยมิต้องรอการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี และให้ถือเป็นงบประมาณที่รัฐจัดสรรเพิ่มขึ้นจากงบปกติ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังในสถานศึกษาในช่วงที่มีการถ่ายโอนสถานศึกษาระหว่างปีงบประมาณ ซึ่งส่วนราชการที่รับผิดชอบไม่สามารถจัดทำขอตั้งงบประมาณได้ตามปกติ
3. ให้บุคลากรด้านการศึกษาของ ศธ. ที่ไม่ประสงค์โอนไปสังกัด อปท. หรืออยู่ระหว่างการตัดสินใจ สามารถช่วยราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนต่อไปได้ตามระยะเวลาที่ กกถ. กำหนดเพื่อให้กระบวนการถ่ายโอนมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว
4. ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. ที่ยื่นความประสงค์ขอโอนไปสังกัด อปท. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนภายหลังการส่งมอบบัญชีรายชื่อบุคลากรให้แก่ อปท. แล้วในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีการศึกษาได้รับสิทธิประโยชน์และเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ต่อเนื่องเช่นเดียวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ถ่ายโอนไปพร้อมสถานศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนและเพื่อพิทักษ์สิทธิประโยชน์ของบุคลากรที่โอนไปสังกัด อปท. ในสถานศึกษาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มิถุนายน 2550--จบ--
1. ให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารการถ่ายโอนภารกิจบุคลากรและงบประมาณด้านการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กรุงเทพมหานคร และระดับจังหวัด เพื่อเป็นองค์กรกลางในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจ บุคลากร และงบประมาณด้านการศึกษาให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ของ ศธ. กรุงเทพมหานคร และในระดับจังหวัด
2. ให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. เพื่อสรรหาบุคลากรทดแทนบุคลากรที่ไม่สมัครใจโอนไปสังกัด อปท. และบุคลากรที่ต่ำกว่าเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เป็นกรณีพิเศษ โดยมิต้องรอการจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี และให้ถือเป็นงบประมาณที่รัฐจัดสรรเพิ่มขึ้นจากงบปกติ ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังในสถานศึกษาในช่วงที่มีการถ่ายโอนสถานศึกษาระหว่างปีงบประมาณ ซึ่งส่วนราชการที่รับผิดชอบไม่สามารถจัดทำขอตั้งงบประมาณได้ตามปกติ
3. ให้บุคลากรด้านการศึกษาของ ศธ. ที่ไม่ประสงค์โอนไปสังกัด อปท. หรืออยู่ระหว่างการตัดสินใจ สามารถช่วยราชการในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนต่อไปได้ตามระยะเวลาที่ กกถ. กำหนดเพื่อให้กระบวนการถ่ายโอนมีความยืดหยุ่นและคล่องตัว
4. ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. ที่ยื่นความประสงค์ขอโอนไปสังกัด อปท. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนภายหลังการส่งมอบบัญชีรายชื่อบุคลากรให้แก่ อปท. แล้วในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปีการศึกษาได้รับสิทธิประโยชน์และเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ต่อเนื่องเช่นเดียวกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ถ่ายโอนไปพร้อมสถานศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านการศึกษาในสถานศึกษาที่ถ่ายโอนและเพื่อพิทักษ์สิทธิประโยชน์ของบุคลากรที่โอนไปสังกัด อปท. ในสถานศึกษาดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 มิถุนายน 2550--จบ--