แต่งตั้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 21, 2010 17:15 —มติคณะรัฐมนตรี

1. การแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก

คณะรัฐมนตรีรับทราบการแต่งตั้งผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ASEAN Commission on the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children — ACWC) จำนวน 2 คน คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิสตรี ได้แก่ นางกานดา วัชราภัย รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ 2) ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก ได้แก่ นางสายสุรี จุติกุล สมาชิกคณะกรรมการอนุสัญญา CEDAW และอดีตสมาชิกคณะกรรมการอนุสัญญา CRC ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะผู้แทนดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

2. การพิจารณาแต่งตั้งผู้ว่าการประปานครหลวง

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งนายเจริญ ภัสระ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้นายเจริญ ภัสระ ลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรก เดือนละ 310,000 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบอัตราค่าตอบแทนแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป

3. แต่งตั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งนายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้นายณรงค์ศักดิ์ กำมเลศ ลาออกจากการเป็นพนักงานก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ 442,000 บาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป

4. ขออนุมัติเปลี่ยนเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอดังนี้

1. ให้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง มีเขตกงสุลครอบคลุมเขตปกครองตนเองกวางสี จากเดิมที่มี เขตกงสุลครอบคลุมเขตปกครองตนเองกวางสีและมณฑลหูหนาน

2. ให้สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง มีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลยูนาน มณฑลกุ้ยโจว และมณฑล หูหนาน จากเดิมที่มีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลยูนนาน และมณฑลกุ้ยโจว

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนได้หารือกับกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว โดยเสนอให้ฝ่ายไทยพิจารณาปรับปรุงเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ทั้งสองแห่งตามข้อเสนอ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วมีความเห็นสอดคล้องกับข้อเสนอของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทภารกิจและอัตรากำลังในปัจจุบันของสถานกงสุลใหญ่ทั้งสองแห่ง ในการปฏิบัติงานส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศเจ้าบ้านทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงการให้ความคุ้มครองและดูแลคนไทยที่พำนักในพื้นที่ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความเห็นและความพร้อมของรัฐผู้รับตามธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตด้วย

5. การแต่งตั้งกรรมการ ศอฉ. เพิ่มเติม

คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ 94 / 2553 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (เพิ่มเติม)

ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี อำเภอพระประแดง อำเภอพระสมุทรเจดีย์ อำเภอบางบ่อ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอสามโคก อำเภอลำลูกกา และอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และอำเภอวังน้อย อำเภอบางปะอิน อำเภอบางไทร และอำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ พิเศษ 1/2553 เรื่องการจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553 แล้ว นั้น

เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 7 วรรคสาม วรรคห้า และวรรคหก มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 11 และมาตรา 15 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของผู้ปฏิบัติงานในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 1.22/1 ของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ 1/2553 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2553 ดังนี้ “ 1.22/1 ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรรมการ”

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2553 เป็นต้นไป

6. ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เพื่อย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญไปแต่งตั้งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ (ด้านสังคม)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เพื่อย้าย นางปรารถนา สุทิน ผู้อำนวยการสำนักพิธีการและเลขานุการ (อำนวยการระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านสังคม (อำนวยการระดับสูง) กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี

7. ขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เพื่อรับโอนข้าราชการมาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านสังคม (อำนวยการระดับสูง) กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกรอบอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนสามัญในภาพรวม รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรภาครัฐ เพื่อรับโอน นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง (อำนวยการระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านสังคม (อำนวยการะดับสูง) กลุ่มงานยุทธศาสตร์และการวางแผน สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี

8. การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) (สำนักนายกรัฐมนตรี)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายภูมิใจ อัตตะนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์โครงการลงทุนภาครัฐ ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

9. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงศึกษาธิการ)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองดังต่อไปนี้

1. นายสกล เขมะพรรค เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

2. นายวีระชัย ถาวรทนต์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2553 เป็นต้นไป

10. ขออนุมัติแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์)

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. นางวัชรี วิมุกตายน ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าภายใน

2. นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์

3. นายมนัส สร้อยพลอย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ไปดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ

4. นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ไปดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

11. การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคารออมสิน

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการธนาคาร ออมสินเพิ่มอีกจำนวน 2 คน ดังนี้ 1. นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ 2. นางเบญจวรรณ สร่างนิทร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2553 เป็นต้นไป โดยให้กรรมการที่แต่งตั้งเพิ่มขึ้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลือของประธานกรรมการหรือกรรมการที่ได้แต่งตั้งไว้แล้ว

12. การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์

คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำนวน 3 คน แทนกรรมการที่ลาออก ดังนี้

1. นางสาวกัญญานุช สอทิพย์ เป็นกรรมการแทนนายวัชรา ตันตริยานนท์

2. นายประสงค์ พูนธเนศ เป็นกรรมการแทนนางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย

3. นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ เป็นกรรมการแทนนายเฉลียว วิทูรปกรณ์

ซึ่งบุคคลตามข้อ 3. เป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตามประกาศของกระทรวงการคลัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2553 เป็นต้นไป โดยผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งตามวาระของผู้ซึ่งตนแทน

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 เมษายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ