ผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 28, 2010 13:58 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เสนอ ดังนี้

1. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (รศก.) ครั้งที่ 4/2553

2. เห็นชอบให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมดำเนินโครงการ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการฯ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ พร้อมทั้งเห็นชอบกรอบวงเงินค่าชดเชยความเสียหายจากการดำเนินโครงการไม่เกิน 2,175 ล้านบาท โดยให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ประสานกับสำนักงบประมาณในการเบิกจ่ายตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง

3. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง พิจารณาตามความเหมาะสมและความจำเป็นในการขยายกรอบวงเงินกู้ยืมของโครงการช่วยเหลือด้านการเงินของผู้ประกอบการท่องเที่ยวตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเมือง และนำเสนอคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจพิจารณาต่อไป

4. เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน E85 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ โดยให้กระทรวงการคลังกำหนดมาตรการจูงใจด้านภาษีแก่รถยนต์ E85 และรับไปดำเนินการออกประกาศตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้

4.1 ภาษีสรรพสามิต เก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ E85 ลดลงในอัตราร้อยละ 3 จากโครงสร้างภาษีปัจจุบัน ดังนี้

  • รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบตั้งแต่ 1,780 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 2,000 ซี.ซี เดิมเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 25 เป็น เก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 22
  • รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,000 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 2,500 ซี.ซี เดิมเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 30 เป็น เก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 27
  • รถยนต์ที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 2,500 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 3,000 ซี.ซี เดิมเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 35 เป็นเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราร้อยละ 32

เมื่อประกาศกรมสรรพสามิตใหม่มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายกระทรวงพลังงานจะยกเลิกการชดเชยภาษีสรรพสามิตอัตราร้อยละ 3 สำหรับรถยนต์ E85 (FFV) ด้วยเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทันที เพื่อมิให้เป็นภาระต่อ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต่อไป

4.2 อากรนำเข้า

  • ให้ลดอากรนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป E85 จากร้อยละ 80 เหลือเป็นร้อยละ 60 สำหรับรถยนต์ E85 ขนาดตั้งแต่ 1,780 ซี.ซี. แต่ไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. จำนวนไม่เกิน 2,000 คัน เป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
  • เร่งดำเนินการจัดทำประกาศเพื่อยกเว้นยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ E85 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2551 โดยชิ้นส่วน ฯ ที่จะได้รับการยกเว้นอากรนำเข้า ต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติม คือ เป็นชิ้นส่วนฯ ที่สามารถใช้ได้กับรถยนต์ E85 และเป็นชิ้นส่วน ฯ ที่ยังไม่มีการผลิตภายในประเทศและมีราคาเทียบเท่าหรือถูกกว่าราคาชิ้นส่วน ฯ นำเข้านั้น

4.3 มอบหมายให้กระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกันพิจารณาแผนการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ E85 ในประเทศ และการนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ E85 เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการเพิ่มการผลิตเอทานอลสำหรับการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในอนาคต รวมทั้ง ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎ ระเบียบ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้ผลิตเอทานอลสามารถผสมน้ำมัน E85 ณ โรงงานผลิตเอทานอลได้ในอนาคต

4.4 มอบหมายให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาปรับปรุงการแก้ไขกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ พ.ร.บ. สุรา พ.ศ. 2493 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตเอทานอลต่อไป

4.5 มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงการคลัง ร่วมกัน พิจารณาแนวทางการดำเนินการเพื่อจำหน่ายกิจการบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ให้เอกชนเข้าดำเนินการแทนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีปัญหาอุปสรรคใด ๆ ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 เมษายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ