สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ
วันนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมอาคารศาสนสถาน กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1. เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลาง สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาความสงบเรียบร้อย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดจากการชุมนุม ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม — 6 เมษายน 2553 เป็นเงิน จำนวน 249,480,000 บาท ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
2. เรื่อง ขอรับการสนับสนุนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อใช้จ่ายในการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ คดีพิเศษที่ 18/2553
คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 28,000,000 บาท เพื่อใช้ในการสืบสวนคดีพิเศษ ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเสนอ
3. เรื่อง การจัดงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครบรอบปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษก และการเฉลิมพระชนมพรรษา
คณะรัฐมนตรีรับทราบและซักซ้อมความเข้าใจในการจัดงานกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงครบรอบปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษก และการเฉลิมพระชนมพรรษา กับหัวหน้าส่วนราชการ ปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลประชาชนที่เดินทางมาร่วมกิจกรรมดังกล่าว
4. เรื่องสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือบสุบรรณ) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้รายงาน ครม. ว่า ขณะนี้การดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคลี่คลายสถานการณ์จะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในเรื่องการดำเนินคดีซึ่งมีความชัดเจนเป็นลำดับ โดยมีการดำเนินคดีใน 2 แนวทาง ซึ่งกลุ่มแรกเป็นเรื่องการก่อการร้าย ที่มีความชัดเจนมากขึ้นจากหลักฐานและพยาน อีกส่วนหนึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา
สำหรับในส่วนของความมั่นคงที่มีผลกระทบต่อทางสถาบันนั้น เป็นเรื่องที่มีขบวนการ กลุ่มบุคคลที่มีการเชื่อมโยงส่วนเรื่องทางการเมืองนั้น เร็ว ๆ นี้ จะมีการเสนอแผนการแก้ไขปัญหาทางการเมืองทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยากจน เรื่องเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งหรือทางการเมือง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนต่าง ๆ กระบวนการ ขั้นตอน วิธีการ เมื่อเรียบร้อยแล้ว จะมอบหมายให้ปลัดกระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ดำเนินการตามแผนการที่จะแก้ไขปัญหาทางการเมือง โดยนายกรัฐมนตรีจะนำเสนอในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ ให้ปลัดกระทรวงทุกกระทรวงเตรียมความพร้อมในการใช้กลไกต่าง ๆ ของรัฐในการดูแลแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี ได้รวบรวมความคิดเห็นจากกระทรวง ทบวง กรม องค์กร ภาคประชาชน และข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย เมื่อมีความพร้อมจะมีการประกาศเพื่อดำเนินการตามกลไกต่าง ๆ ต่อไป
ในส่วนของการซักซ้อมทำความเข้าใจเรื่องแนวปฏิบัติในการดูแลพื้นที่ และการดูแลความมั่นคง ความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้มาชุมนุมในพื้นที่นั้น รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ภายในระยะเวลา 1-2 วันอาจจะมีการจัดระบบการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงผู้มาชุมนุมมากขึ้น โดยจะมีการส่งข้อความสั้น ๆ ให้กับคนที่อยู่บริเวณพื้นที่เหล่านั้นทั้งหมดเป็นระยะๆ ขณะนี้ระบบใกล้ทำการได้แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งให้ ครม.ทราบว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาทั้งในแง่ความเดือดร้อนของประชาชน โดยจะมีแนวทางทางการเมือง ขณะเดียวกันจะดำเนินคดี และขยายผลอย่างต่อเนื่อง พยายามให้การดำเนินคดีมีความรวดเร็ว และเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย ควบคู่กับการซักซ้อมทำความเข้าใจในการใช้มาตรการความมั่นคงในการเข้าไปดูแลพื้นที่ การสื่อสารให้เข้าถึงประชาชน เพื่อให้รับทราบว่า การชุมนุมเหล่านี้เป็นการชุมนุมที่ควรจะหลีกเลี่ยงอย่างไร และอันตรายอย่างไร โดยจะมีการจัดระบบเพื่อรองรับคนที่อาจจะเปลี่ยนใจไม่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 พ.ค. 2553--จบ--