ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการลาเข้าร่วมอุปสมบท

เรื่อง ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการลาเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปีที่ 60 วันที่ 5 พฤษภาคม 2553 และเนื่องในโอกาสมหามงคล

เฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 โดยไม่ถือเป็นวันลา

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้ง 2 ข้อ ดังนี้

1. ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมถึงลูกจ้างประจำลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553 เป็นระยะเวลา 15 วัน ตามหลักสูตรศาสนศึกษาสำหรับผู้บวชระยะสั้น (15 วัน) ของกรมการศาสนา โดยไม่ถือเป็นวันลาเสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติตามที่จังหวัดลำปางเสนอ

2. ให้การใช้สิทธิการลาดังกล่าวมีผลครอบคลุมถึงการลาเข้าร่วมอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกปีที่ 60 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 และการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553 ในปี 2553 โดยต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการจัดขึ้นตามแนวทางที่กรมการศาสนากำหนด ทั้งนี้ ให้ลาได้ตามระยะเวลาที่กำหนดของโครงการ แต่ไม่เกิน 15 วัน ตามหลักสูตรศาสนศึกษาสำหรับผู้บวชระยะสั้น (15 วัน) ของกรมการศาสนา หากอุปสมบทเป็นเอกเทศโดยไม่ได้ เข้าร่วมโครงการตามที่กำหนดนี้จะไม่ได้รับสิทธิการลาตามมติคณะรัฐมนตรี และข้าราชการที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับ ราชการมาแล้วสามารถจะลาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติตามมติ คณะรัฐมนตรีในครั้งนี้ได้อีก

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงวัฒนธรรมรายงานว่า

1. ในปี พ.ศ. 2553 มีงานสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปีที่ 60 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2553 และงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 และเนื่องในโอกาสมหามงคลดังกล่าวจังหวัดลำปางแจ้งว่าคณะสงฆ์จังหวัดลำปางจะจัดโครงการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจังหวัดลำปางได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติแสดงความจงรักภักดีและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการบำเพ็ญคุณความดีปฏิบัติธรรมถวายพระราชกุศล โดยการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติกำหนดเป้าหมาย อุปสมบท จำนวน 100 รูป ณ วัดพระเจดีย์ซาวหลัง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง โดยมีกำหนดการเปิดรับสมัครวันที่ 1-20 ตุลาคม 2553 จัดพิธีปลงผมนาคและทำขวัญนาควันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 พิธีบรรพชาอุปสมบท วันที่ 1 ธันวาคม 2553 ปฏิบัติธรรมระหว่างวันที่ 1-15 ธันวาคม 2553 พิธีลาสิกขาและแสดงตนเป็นพุทธมามกะในวันที่ 15 ธันวาคม 2553

2. ในการกำหนดระยะเวลาดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากอยู่ระหว่างวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ข้าราชการทุกคนได้มีโอกาส ลาอุปสมบท เพื่อบำเพ็ญคุณความดีปฏิบัติธรรมถวายพระราชกุศลและเป็นการส่งเสริมประเพณีการบรรพชาอุปสมบท ประกอบกับทางวัดพระเจดีย์ซาวหลังมีพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ และพระพี่เลี้ยงที่มีความพร้อมสามารถให้การอบรมสั่งสอนแก่ผู้อุปสมบทได้ตลอดระยะเวลาการฝึกอบรมที่กำหนด

3. เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ข้าราชการทุกหมู่เหล่าได้มีโอกาสบำเพ็ญคุณความดีเพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติและเพื่อให้ข้าราชการได้เป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการทำความดีจึงควรให้สิทธิในการลาอุปสมบทแก่ข้าราชการโดยไม่ถือเป็นวันลา ทั้งนี้ ผู้ลาอุปสมบทจะต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการจัดขึ้นตามแนวทางที่กรมการศาสนากำหนด หากอุปสมบทเป็นเอกเทศโดยไม่ได้เข้าร่วมโครงการตามที่กำหนดจะไม่ได้รับสิทธิการลา

4. ระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมิได้มีข้อกำหนดให้ข้าราชการลาอุปสมบทได้เพียง 1ครั้ง แต่ข้าราชการที่เคยอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้ว หากประสงค์จะลาอุปสมบทอีก และผู้มีอำนาจอนุญาตให้ลาได้ ข้าราชการก็มีสิทธิลาอุปสมบทได้แต่จะไม่ได้รับเงินเดือนระหว่างการลาตามนัยแห่งพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จบำนาญ และเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 อย่างไรก็ตาม หากคณะรัฐมนตรีได้มีมติยกเว้นระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว การลาอุปสมบทจะถือเสมือนเป็นการปฏิบัติราชการ และผู้อุปสมบทจะได้รับเงินเดือนตามปกติ

5. ค่าใช่จ่ายในการดำเนินงานในครั้งนี้ใช้จากงบประมาณปกติของหน่วยงานหรือส่วนราชการที่จัดโครงการ และเงินจากการร่วมบริจาคของพุทธศาสนิกชนและผู้ร่วมอุปสมบท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤษภาคม 2553--จบ--