คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ ภัยแล้ง และวาตภัยที่เกิดขึ้น (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2553) สรุปสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 — 3 พฤษภาคม 2553)
1.1 พื้นที่ประสบภัย 52 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี กาญจนบุรี ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช ระนอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวม 353 อำเภอ 2,388 ตำบล 19,309 หมู่บ้าน แยกเป็น
ข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 (ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2553)
ที่ พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด คน ครัวเรือน 1 เหนือ 14 76 517 3,861 เชียงราย เชียงใหม่ ตาก น่าน 1,000,802 304,931 พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี 2 ตะวันออก 17 179 1,318 12,225 กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม 4,260,375 1,100,399 เฉียงเหนือ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี อุบลราชธานี 3 กลาง 8 30 206 1,309 กาญจนบุรี ชัยนาท ประจวบคีรีขันธ์ 426,648 75,063 เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี 4 ตะวันออก 7 36 191 1,072 จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด 545,475 104,697 นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว 5 ใต้ 6 32 156 842 กระบี่ ชุมพร ตรัง นครศรีธรรมราช 180,510 57,372 ระนอง สุราษฎร์ธานี รวมทั้งประเทศ 52 353 2,388 19,309 6,413,810 1,642,462
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน 5 เม.ย. 2553 19 เม.ย. 2553 26 เม.ย. 2553 3 พ.ค. 2553 ทั้งหมด หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม หมู่ + เพิ่ม บ้าน - ลด บ้าน - ลด บ้าน - ลด บ้าน - ลด 1 เหนือ 16,590 7,729 -1,912 7,729 0 6,034 -1,695 3,861 -2,173 2 ตะวันออก 33,099 12,974 340 12,974 0 12,957 -17 12,225 -732 เฉียงเหนือ 3 กลาง 11,736 1,404 24 1,404 0 1,363 -41 1,309 -54 4 ตะวันออก 4,859 1,083 0 1,072 -11 1,072 0 1,072 0 5 ใต้ 8,660 1,073 13 1,069 -4 1,069 0 842 -227 รวม 74,944 24,263 -1,535 24,248 -15 22,495 -1,753 19,309 -3,186
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 กับปี 2552 ในห้วงเวลาเดียวกัน
ที่ ภาค จำนวนหมู่บ้าน ข้อมูลปี 2553 ข้อมูลปี 2552 เปรียบเทียบข้อมูลภัย ทั้งประเทศ (ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2553) (ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2552) แล้ง ปี 2553 กับปี 2552 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ จำนวน คิดเป็นร้อยละ ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง ที่ประสบ (ของหมู่บ้านทั้ง หมู่บ้าน ของหมู่บ้านที่ ภัยแล้ง ประเทศ) ภัยแล้ง ทั้งประเทศ) + เพิ่ม/ ประสบภัยแล้ง - ลด ปี 2552 1 เหนือ 16,590 3,861 23.27 1,219 7.35 2,642 216.74 2 ตะวันออก 33,099 12,225 36.94 5,532 16.71 6,693 120.99 เฉียงเหนือ 3 กลาง 11,736 1,309 11.15 0 0 1,309 11.15 4 ตะวันออก 4,859 1,072 22.06 0 0 1,072 22.06 5 ใต้ 8,660 842 9.72 0 0 842 9.72 รวม 74,944 19,309 25.77 6,751 9.01 12,558 186.02
ปี 2553 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 52 จังหวัด 353 อำเภอ 2,388 ตำบล 19,309 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 56.21 ของหมู่บ้านทั้งหมดในจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 34,353 หมู่บ้าน และร้อยละ 25.77 ของหมู่บ้านทั้งประเทศ 74,944 หมู่บ้าน)
เปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 มีจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง รวม 18 จังหวัด 195 อำเภอ 764 ตำบล 6,751 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 27.44 ของหมู่บ้านทั้งหมดใน 18 จังหวัดที่ประสบภัยแล้ง และคิดเป็นร้อยละ 9.01 ของหมู่บ้านทั้งประเทศ 74,944 หมู่บ้าน)
ปี 2553 หมู่บ้านที่ประสบภัยแล้ง มากกว่า ปี 2552 จำนวน 12,558 หมู่บ้าน หรือมากกว่าร้อยละ 186.02
1.2 ความเสียหาย
- ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,413,810 คน 1,642,462 ครัวเรือน
- พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย รวม 616,622 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 377,027 ไร่ นาข้าว 74,043 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 165,552 ไร่
1.3 การให้ความช่วยเหลือ
1) ใช้รถบรรทุกน้ำ 1,621 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 413,161,894 ลิตร
2) ซ่อมสร้างทำนบ/ฝายชั่วคราวปิดกั้นลำน้ำ 5,210 แห่ง
3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 5,707 แห่ง
4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 641,051,992 บาท แยกเป็น
- งบทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 344,269,141 บาท
- งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 177,560,854 บาท (ข้อมูลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
- งบอื่น ๆ 119,221,997 บาท
5) กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 777 เครื่อง ไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 46 จังหวัด โดยแยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ 262 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 249 เครื่อง ภาคกลาง 100 เครื่อง ภาคตะวันออก 84 เครื่อง และภาคใต้ 82 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ 29 คัน
6) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 1,548 เที่ยว รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 10,881,000 ลิตร
2. สถานการณ์วาตภัย (ระหว่างวันที่ 19-30 เมษายน 2553)
2.1 พื้นที่ประสบภัย ในช่วงระหว่างวันที่ 19-30 เมษายน 2553 ได้เกิดพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง ในหลายพื้นที่ และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ ทำให้ได้รับความเสียหายใน 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา พิจิตร แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ ศรีสะเกษ สุรินทร์ อุดรธานี ขอนแก่น หนองบัวลำภู มหาสารคาม นนทบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และจังหวัดสตูล รวม 75 อำเภอ 187 ตำบล 827 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 12,385 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 คน (อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่)
2.2 การให้ความช่วยเหลือ จังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น และเร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการฯ ต่อไป
3. สิ่งของพระราชทาน
สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้นำหน่วยรถผลิตน้ำดื่มไปบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี รวมจ่ายน้ำให้กับประชาชนทั้งสิ้น จำนวน 982,000 ลิตร
4. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 3—8 พฤษภาคม 2553
4.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2553 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นกับมีลมกระโชกแรงในบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 3-4 พฤษภาคม 2553 ลมใต้ และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับลมกระโชก จากนั้นในช่วงวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2553 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อากาศร้อนขึ้นและฝนลดลง
4.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤษภาคม 2553--จบ--