คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสรุปสถิติอุบัติเหตุในภาคการขนส่งในความรับผิดชอบประจำเดือนเมษายน 2553 ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงคมนาคมรายงานสรุปสถิติอุบัติเหตุในภาคการขนส่งในความรับผิดชอบประจำเดือนเมษายน 2553 โดยเปรียบเทียบกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในภาคการขนส่งประจำเดือนเมษายน 2552 สถิติอุบัติเหตุเฉพาะการขนส่งทางถนนเปรียบเทียบระหว่างเดือนมีนาคม 2553 กับเดือนเมษายน 2553 ความก้าวหน้าในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุการขนส่งทางถนน โดยใช้ข้อมูลจากศูนย์ปลอดภัยคมนาคม กระทรวงคมนาคม และระบบ TRAMS ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2553 เวลา 09:00 น. ดังนี้
1. สถิติการเกิดอุบัติเหตุในภาคการขนส่งประจำเดือนเมษายน 2553 โดยเปรียบเทียบกับสถิติการเกิดอุบัติเหตุในภาคการขนส่งประจำเดือนเมษายน 2552
อุบัติเหตุที่รับรายงาน (ครั้ง) ผู้บาดเจ็บ (ราย) ผู้เสียชีวิต สาขาการขนส่ง เมย.52 เมย.53 เปรียบเทียบ เมย.52 เมย.53 เปรียบเทียบ เมย.52 เมย.53 เปรียบเทียบ ถนน 1,718 1,481 -13.80% 1,959 1,947 -0.61% 303 322 6.27% จุดตัดรถไฟกับถนน 16 8 -50.00% 13 11 -15.38% 12 1 -91.66% ทางน้ำ 4 1 -75.00% 0 5 - 0 0 - ทางอากาศ 0 0 - 0 0 - 0 0 - รวม 1,738 1,490 -14.27% 1,972 1,963 -0.46% 315 323 2.54%
จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากภาคการขนส่งในความรับผิดชอบ เปรียบเทียบในช่วงเดือนเมษายนของปี 2552 กับปี 2553 พบว่า ในภาพรวมของทุกสาขาการขนส่งมีจำนวนครั้งของสถิติการเกิดอุบัติเหตุลดลงเฉลี่ยร้อยละ 14.27 จำนวนผู้บาดเจ็บลดลงร้อยละ 0.46 และจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.54 และเมื่อพิจารณาจากความรุนแรงเมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2552 พบว่า การเกิดอุบัติเหตุทางถนนยังคงสร้างความสูญเสียอย่างร้ายแรง ซึ่งจากสถิติข้างต้น อุบัติเหตุทางถนน เดือนเมษายนปี 2553 พบว่า เกิดขึ้นสูงถึงร้อยละ 99.40 เมื่อเทียบกับการขนส่งระบบอื่น มีผู้บาดเจ็บร้อยละ 99.18 และมีผู้เสียชีวิตร้อยละ 99.69 โดยการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในเดือนเมษายน 2553 มีจำนวนครั้ง และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง แต่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2552 โดยเส้นทางตรงยังคงเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด พฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่เคารพกฎจราจรและไม่ปลอดภัย ได้แก่ การขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด และการตัดหน้ากระชั้นชิด ยังคงเป็นมูลเหตุสันนิษฐานสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งนี้ การขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด มีสถิติที่ลดลงร้อยละ 17.44 โดยที่การตัดหน้ากระชั้นชิด มีสถิติเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.81 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของ ปี 2552 นอกจากนี้ ประเภทรถที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอุบัติเหตุที่สำคัญ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ รถจักรยานยนต์ และ รถยนต์
2. สถิติอุบัติเหตุเฉพาะการขนส่งทางถนนเปรียบเทียบระหว่างเดือนมีนาคม 2553 กับเดือนเมษายน 2553
ข้อมูลอุบัติเหตุ มี.ค. 53 เม.ย. 53 รวม (ม.ค. — เม.ย. 53) อุบัติเหตุ (ครั้ง) 853 1,481 (+73.62%) 2,334 ผู้เสียชีวิต (ราย) 121 322 (+166.12%) 443 ผู้บาดเจ็บ (ราย) 611 1,947 (+218.66%) 2,558
สถิติอุบัติเหตุการขนส่งทางถนนระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2553 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,334 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 443 ราย และผู้บาดเจ็บ 2,558 ราย โดยในเดือนเมษายน 2553 ซึ่งเป็นช่วงของเทศกาลสงกรานต์ที่มีจำนวนเที่ยวของการเดินทางของประชาชนเพิ่มมากกว่าปกติ ดังนั้น จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บจึงมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นมากเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2553 ถึงร้อยละ 73.62 166.12 และ 218.66 ตามลำดับ
3. ความก้าวหน้าในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุการขนส่งทางถนน
กระทรวงคมนาคมขอรายงานความก้าวหน้าในการดำเนินการ ดังนี้
3.1 การตรวจสอบพฤติกรรมความพร้อมของผู้ขับขี่ไม่ให้เมาสุรา (แอลกอฮอล์เป็นศูนย์) กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับรถสาธารณะ โดยในเดือนเมษายน 2553 ได้ดำเนินการตรวจผู้ขับรถสาธารณะจำนวน 228,029 ราย พบว่ามีผู้ขับรถสาธารณะที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดจำนวน 4 ราย ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนทั้งการห้ามขับ และส่งดำเนินคดี
3.2 การปรับปรุงแก้ไขจุดอันตราย และโค้งอันตราย ประจำเดือนเมษายน 2553
3.2.1 กรมทางหลวงได้ดำเนินงานตามแผนกิจกรรมอำนวยความปลอดภัยเพื่อป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนปีงบประมาณ 2553 ได้เห็นชอบแผนงานไปแล้วรวม 466 แห่ง
3.2.2 กรมทางหลวงชนบทได้แก้ไข/ปรับปรุงจุดอันตรายบริเวณทางโค้งบนทางหลวงชนบท จำนวน 139 แห่ง รวมสะสมตั้งแต่มกราคม ถึง เมษายน 2553 คิดเป็นร้อยละ 36.34 ของแผนที่จะดำเนินการรวมทั้งสิ้น 875 แห่ง
4. ข้อเสนอเพื่อการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุการขนส่งทางถนน
จากผลการวิเคราะห์ข้างต้น กระทรวงคมนาคมจะได้ดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้
4.1 ให้กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และการทางพิเศษแห่งประเทศไทยยังคงมาตรการเร่งรัดการปรับปรุงแก้ไขจุดอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณทางตรง ซึ่งยังคงเกิดอุบัติเหตุในสัดส่วนที่มากกว่าบริเวณอื่น และการแก้ไขปรับปรุงโค้งอันตรายเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
4.2 ให้กรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพดำเนินการ
4.2.1 เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายจราจรทางบก เช่น การควบคุมความเร็วของรถไม่ให้เกินอัตราที่กำหนดโดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ การกวดขันการใช้งานรถผิดประเภท เช่น การบรรทุกผู้โดยสารจำนวนมากท้ายรถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง เป็นต้น
4.2.2 เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบพฤติกรรมความพร้อมของผู้ขับขี่ไม่ให้เมาสุรา/ยาบ้า/ความอ่อนเพลีย เมื่อยล้า
4.2.3 รณรงค์ให้ผู้ขับขี่ตรวจสภาพความพร้อมของรถก่อนขับขี่ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับขี่ทางไกล
4.3 ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ประชาชนใช้บริการจุดพักรถ (Rest Area) ศูนย์บริการทางหลวง สถานีบริการ เมื่อขับขี่เป็นระยะเวลานาน 3 — 4 ชั่วโมงแล้ว เพื่อป้องกันการง่วงอ่อนเพลียขณะขับขี่ ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤษภาคม 2553--จบ--