คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏานเพื่อขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลภูฏาน ภายใต้โครงการอาสาสมัครเพื่อนไทย (Friends from Thailand - FFT) ออกไปเป็นระยะเวลาอีก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2552 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. สำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ได้ริเริ่มโครงการจัดส่งอาสาสมัครเพื่อนไทยไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ภายใต้โครงการอาสาสมัครเพื่อนไทย ซึ่งเป็นการขยายกลไกความร่วมมือทางวิชาการ เพิ่มจากเดิม ที่เคยดำเนินการในลักษณะของโครงการ ทุน ผู้เชี่ยวชาญ และวัสดุอุปกรณ์ เพื่อมุ่งเป้าหมายสู่ผู้รับในระดับรากหญ้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งเป็นช่องทางส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์วัยหนุ่มสาวให้มีศักยภาพเพิ่มขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1.1 ส่งเสริมภาพพจน์ของประเทศไทยในสังคมระหว่างประเทศ
1.2 ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันทั้งในระดับประเทศและระดับประชาชน
1.3 ขยายรูปแบบการให้ความช่วยเหลือของประเทศไทย
1.4 เสริมสร้างประสบการณ์และพัฒนาบุคลากรของไทยในการไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ
ทั้งนี้ มีเป้าหมายพื้นที่ปฏิบัติงานในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า) และประเทศที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญในการให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการ เช่น ภูฏาน อัฟกานิสถาน และติมอร์ เลสเต เป็นต้น โดยมีสาขาการปฏิบัติงานของอาสาสมัคร กำหนดไว้ 4 สาขา คือ สาธารณสุข เกษตร ฝีมือแรงงาน การศึกษาและการพัฒนาชนบท
2. ในการดำเนินงานโครงการฯ ดังกล่าว กต. ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลภูฏาน โดยคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (The Royal Civil Service Commission : RCSC) ว่าด้วยความร่วมมือด้านอาสาสมัคร ซึ่งได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2550 ระหว่างผู้อำนวยการ สพร. กับเลขาธิการ RCSC โดยมีกำหนดระยะเวลา ดำเนินการ 2 ปี ทั้งนี้ การลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวดำเนินการภายใต้กรอบ Comprehensive Framework Agreement) ที่รัฐบาลทั้งสองประเทศได้ร่วมลงนามไว้แล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2547
3. ในการดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว กต. ได้จัดส่งอาสาสมัคร จำนวน 4 คน ไปปฏิบัติงานในสาขาต่าง ๆ ในประเทศภูฏานเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 — 1 กุมภาพันธ์ 2553 ดังนี้
สาขา สถานที่ปฏิบัติงาน 1. IT (Web Design/Networking) Tourism Council of Bhutan, Thimphu 2. Architecture Tourism Council of Bhutan, Thimphu 3. Product Development (Handicraft) Handicraft Association of Bhutan, Thimphu 4. HIV/AIDS Department of Public Health, Thimphu
4. บัดนี้ กต. ได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตภูฏาน ณ กรุงธากาว่า RCSC มีความประสงค์จะขอขยายระยะเวลาของบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว ที่ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2552 ออกไปอีก 2 ปี เนื่องจากมีความพึงพอใจผลการปฏิบัติงานของอาสาสมัครไทย
5. การดำเนินงานด้านอาสาสมัครไทยมีประโยชน์และสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และกระชับความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งสอดคล้องและตรงตามความประสงค์ของฝ่ายภูฏานอย่างแท้จริง จึงเห็นควรที่จะให้การสนับสนุนการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว ออกไปอีก 2 ปี เพื่อให้อาสาสมัครสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปอีก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สามารถสานต่อ ต่อยอดกิจกรรมเดิม และจะเป็นพี่เลี้ยงที่ดีให้แก่อาสาสมัครรุ่นต่อไป เนื่องจากมีความพร้อมทั้งความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว นอกจากนั้นแล้ว ความร่วมมือด้านอาสาสมัครดังกล่าว ยังเป็นกลไกหนึ่งในการขยายความร่วมมือทางวิชาการของไทยกับต่างประเทศอีก ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรของไทยในการปฏิบัติงานในต่างประเทศ
6. ร่างหนังสือแลกเปลี่ยนดังกล่าวน่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภาก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน
7. ในการประชุมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย — ภูฏาน เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2553 ผู้แทนรัฐบาลภูฏานเห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวในรูปของหนังสือแลกเปลี่ยนและขอให้ กต. ส่งร่างหนังสือ แลกเปลี่ยนให้ RCSC พิจารณาต่อไป ซึ่ง กต. ได้ส่งร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ไปให้ RCSC แล้ว และบัดนี้ RCSC มีหนังสือเห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ มาด้วยแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤษภาคม 2553--จบ--