เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุ
ใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตขุดค้นในเขตสำรวจและการศึกษาวิจัย หรือเคลื่อนย้าย นำเอาไป ทำให้เสียหาย
หรือทำลายซึ่งแหล่งซากดึกดำบรรพ์ หรือซากดึกดำบรรพ์ในเขตสำรวจและศึกษาวิจัย พ.ศ. ....
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตขุดค้นในเขตสำรวจและการศึกษาวิจัย หรือเคลื่อนย้าย นำเอาไป ทำให้เสียหาย หรือทำลายซึ่งแหล่งซากดึกดำบรรพ์ หรือซากดึกดำบรรพ์ในเขตสำรวจและศึกษาวิจัย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
ข้อเท็จจริง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาต การอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนขุดค้นในเขตสำรวจและศึกษาวิจัย หรือเคลื่อนย้าย นำเอาไป ทำให้เสียหาย หรือทำลายซึ่งแหล่งซากดึกดำบรรพ์ หรือซากดึกดำบรรพ์ในเขตสำรวจและศึกษาวิจัย ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ. 2551 เพื่อให้มีการควบคุมการขุดค้นแหล่งซากดึกดำบรรพ์ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ สามารถคุ้มครองและอนุรักษ์ให้เป็นมรดกทางธรรมชาติของแผ่นดินไว้มิให้เกิดความเสียหายจากการขุดค้น ตลอดจนสามารถพัฒนาเป็นแหล่งความรู้ในการศึกษาวิจัยด้านธรณีวิทยา จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ของบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กรณีเป็นบุคคลธรรมดาต้องเป็นผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักรไทย ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ไม่เคยถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตหรือไม่เคยต้องโทษเพราะฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์มาก่อน (ร่างข้อ 1)
2. กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ ซึ่งเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์โดยชอบด้วยกฎหมายของแหล่งซากดึกดำบรรพ์ ต้องเสนอโครงการหรือแผนผังโครงการและแผนปฏิบัติงาน และต้องจัดหาผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านซากดึกดำบรรพ์เป็นผู้ควบคุมการดำเนินการ(ร่างข้อ 2)
3.กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขุดค้นซากดึกดำบรรพ์เป็นสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานเพื่อการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์ ให้เสนอโครงการพร้อมคำรับรองของสถาบันการศึกษา หรือคำรับรองของหัวหน้าหน่วยงานนั้น (ร่างข้อ 3)
4. กำหนดให้ในกรณีผู้ขอรับใบอนุญาตขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ มีนักวิจัยหรือผู้ร่วมวิจัยเป็นชาวต่างประเทศ จะต้องปฏิบัติตามระเบียบสภาวิจัยแห่งชาติ ว่าด้วยการอนุญาตให้นักวิจัยต่างประเทศเข้ามาทำวิจัยในประเทศไทย (ร่างข้อ 4)
5. กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ ต้องยื่นคำขอพร้อมโครงการต่ออธิบดีกรมทรัพยากรธรณี ก่อนเริ่มดำเนินการไม่น้อยกว่า 60 วัน โดยโครงการและคำขอต้องจัดทำเป็นภาษาไทย (ร่างข้อ 5)
6. กำหนดให้โครงการหรือแผนผังในการขุดค้นซากดึกดำบรรพ์ จะต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดและจำนวนพื้นที่ที่จะดำเนินการ วิธีขุดค้นเคลื่อนย้ายซากดึกดำบรรพ์ ชนิด ขนาด เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ งบประมาณที่ใช้ดำเนินการ จำนวน ชนิด ขนาด ปริมาณ และวิธีการจัดเก็บตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์พร้อมทั้งเหตุผลความจำเป็น รวมทั้งกำหนดระยะเวลาการรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินการให้กรมทรัพยากรธรณีทราบ (ร่างข้อ 6)
7. กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแก้ไขเอกสาร หรือส่งมอบเอกสารเพิ่มเติม (ร่างข้อ 7)
8. กำหนดแบบและเงื่อนไขใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต แบบการขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด (ร่างข้อ 8 — ร่างข้อ 10)
9. กำหนดสถานที่การยื่นคำขอรับใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาตและการขอรับใบแทนใบอนุญาต โดยผู้มีภูมิลำเนาในเขตกรุงเทพมหานครให้ยื่น ณ กรมทรัพยากรธรณี สำหรับผู้มีภูมิลำเนาในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ พิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ธรณีวิทยาและธรรมชาติวิทยาที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนั้น หากจังหวัดนั้นไม่มีพิพิธภัณฑ์ฯ ให้ยื่น ณ พิพิธภัณฑ์ฯ ในจังหวัดใกล้เคียงหรือกรมทรัพยากรธรณีหรือสถานที่ที่อธิบดีกำหนด (ร่างข้อ 11)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 พฤษภาคม 2553--จบ--