ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 12, 2010 16:05 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ที่ได้ตรวจพิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงการคลังเสนอแล้วเห็นว่า คณะรัฐมนตรีไม่อาจมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอนุมัติโครงการและอนุมัติวงเงินกู้สำรองจ่ายแทนคณะรัฐมนตรีได้ โดยให้กระทรวงการคลังถือปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้คณะรัฐมนตรีได้มีการพิจารณาตัดสินใจร่วมกัน และ กรณีที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ

ข้อเท็จจริง

1. คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 2 ได้ตรวจพิจารณาร่างระเบียบตามมติคณะรัฐมนตรี (4 พฤษภาคม 2553) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 2553 โดยมีผู้แทนกระทรวงการคลัง (สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ) เข้าร่วมชี้แจงรายละเอียด ว่า โครงการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง โดยได้ปิดรับคำขออนุมัติดำเนินโครงการแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2552 และปรากฏว่ามีกรอบวงเงินคงเหลือภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ประมาณ 10,770 ล้านบาท ซึ่งจะต้องจัดสรรให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2553

ดังนั้น เพื่อให้การจัดสรรวงเงินคงเหลือจำนวน 10,770 ล้านบาท เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จึงได้เสนอขอแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ในร่างข้อ 15 และร่างข้อ 16 เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติโครงการ และการอนุมัติวงเงินกู้สำรองจ่ายแทนคณะรัฐมนตรี

2. คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาร่างระเบียบดังกล่าวประกอบกับคำชี้แจงของผู้แทนกระทรวงการคลังแล้ว มีความเห็นดังนี้

2.1 การแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติโครงการ กรอบวงเงิน แผนการดำเนินงาน และแผนระดมทุนของโครงการตามข้อ 15 ของระเบียบฯ และอนุมัติวงเงินกู้สำรองจ่ายสำหรับบริหารโครงการตามข้อ 16 ของระเบียบฯ แทนคณะรัฐมนตรี เป็นการมอบอำนาจของคณะบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจบริหารสูงสุดตามรัฐธรรมนูญไปให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการทั่วไปโดยไม่มีขอบเขตจำกัดนั้นไม่อาจกระทำได้ เพราะเป็นการไม่ชอบด้วยหลักการมอบอำนาจ

2.2 เมื่อพิจารณาความตามมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 ที่ได้วางหลักการเรื่องการมอบอำนาจไว้ว่า ในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการหรือการดำเนินการอื่นที่ผู้ดำรงตำแหน่งใดจะพึงปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งใด หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องใด ถ้ากฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือประกาศ หรือคำสั่งนั้น หรือมติของคณะรัฐมนตรีในเรื่องนั้นมิได้กำหนดเรื่องการมอบอำนาจไว้เป็นอย่างอื่น หรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอำนาจไว้ ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นอาจมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นได้นั้น จะเห็นว่าเป็นการมอบอำนาจระหว่างบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งด้วยกัน แต่ในกรณีนี้คณะรัฐมนตรีเป็นคณะบุคคลจึงไม่อยู่ฐานะเป็นผู้ดำรงตำแหน่งใดที่จะมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติราชการแทนได้ตามบทบัญญัติดังกล่าว ประกอบกับไม่มีกฎหมายเฉพาะอื่นใดที่บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีสามารถมอบอำนาจให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นได้

2.3 โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเป็นโครงการที่กระตุ้นเศรษฐกิจโดยการใช้เงินจากการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ซึ่งจะอยู่ภายใต้แผนปฏิบัติการของทุกกระทรวง จึงเป็นเรื่องนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ที่จะต้องประชุมพิจารณาร่วมกันเพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพ การเสนอขอแก้ไขระเบียบดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 11 (8) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2535 ที่บัญญัติให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่วางระเบียบปฏิบัติราชการ เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้อนุมัติแทนคณะรัฐมนตรี จึงไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินฯ และเป็นการแก้ไขที่เกินกรอบอำนาจตามบทบัญญัติดังกล่าว

2.4 แม้ว่าคณะรัฐมนตรีได้เคยวางหลักการมอบอำนาจของคณะรัฐมนตรีให้นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีสั่งหรือปฏิบัติราชการแทน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2520 แต่ก็เป็นการมอบอำนาจได้เฉพาะเรื่องที่ไม่ใช่นโยบายหรือไม่ใช่เรื่องสำคัญ และมีระเบียบปฏิบัติปกติอยู่แล้ว และจะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป เมื่อนำมาพิจารณาเทียบเคียงกับเรื่องนี้จะมีข้อแตกต่างกันเนื่องจากโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เป็นการใช้เงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลมีผลกระทบต่อภาพรวมของประเทศและมีความเกี่ยวพันกับหลายส่วนราชการ สมควรได้รับการพิจารณาตัดสินใจร่วมกันของคณะรัฐมนตรี จึงไม่ใช่กรณีที่จะมอบอำนาจของคณะรัฐมนตรีให้บุคคลใดตามแนวมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวได้

2.5 การเสนอขอแก้ไขเรื่องการมอบอำนาจของคณะรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้กับการจัดสรรวงเงินสำรองจ่ายที่เหลือจำนวน 10,770 ล้านบาท ตามคำชี้แจงของผู้แทนกระทรวงการคลัง แต่การแก้ไขระเบียบดังกล่าวจะมีสภาพบังคับใช้ และมีผลผูกพันการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีเป็นการถาวร ประกอบกับยังมีระยะเวลาที่จะดำเนินการจัดสรรวงเงินที่เหลือพอสมควร จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขระเบียบแต่อย่างใด สมควรดำเนินโครงการฯ ตามระเบียบที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันจะเหมาะสมกว่า

2.6 นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการบริหารโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 พ.ศ. 2552 ที่ใช้ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ระเบียบดังกล่าวได้กำหนดให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาอนุมัติเรื่องต่าง ๆ เกือบทั้งสิ้น ซึ่งการแก้ไขระเบียบครั้งนี้ นอกจากจะมีผลกระทบในหลักการและไม่สอดคล้องกับความในบางข้อของระเบียบแล้ว อาจมีประเด็นโต้แย้งเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของระเบียบดังกล่าวรวมทั้งอาจเป็นประเด็นทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลในวงกว้างด้วย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวที่อาจบังเกิดขึ้น จึงเห็นว่ายังไม่สมควรที่จะแก้ไขระเบียบดังกล่าว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 พฤษภาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ