เรื่อง ผลการประเมินการปฏิบัติราชการและการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษา
ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ในการประชุม ครั้งที่ 2/2553 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2553 ดังนี้
1. เห็นชอบผลการประเมินการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และเมื่อสำนักงาน ก.พ.ร.ติดตามข้อมูลผลการประเมินจากหน่วยงานกลางที่เป็นเจ้าภาพตัวชี้วัดครบถ้วนแล้ว รวมถึงการตรวจสอบข้อทักท้วงและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและการประมวลผลคะแนนของส่วนราชการ จังหวัด รวมทั้งสถาบันอุดมศึกษาแล้วเสร็จ ให้สำนักงาน ก.พ.ร.ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงคะแนนให้มีความครบถ้วนและถูกต้องสมบูรณ์ เพื่อนำเสนอ ก.พ.ร.เพื่อทราบโดยด่วนต่อไป
2. ไม่สมควรจัดตั้งกองทุนเงินสะสมในรูปแบบ “เงินทุนหมุนเวียน” เนื่องจากไม่สอดคล้องกับหลักการ เหตุผลและเจตนารมณ์ของการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนตามหลักการของพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ.2491 มาตรา 12 และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 18 หากรัฐบาลพยายามที่จะผลักดันการจัดตั้งกองทุนเงินสะสมโดยมาจากเงินเหลือจ่ายของส่วนราชการต่าง ๆ จะต้องตราเป็นพระราชบัญญัติเฉพาะเท่านั้น
3. เห็นชอบให้มีการจัดสรรเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยให้ใช้เงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา ในส่วนที่เหลือนอกเหนือจากร้อยละ 50 ของเงินงบประมาณเหลือจ่าย แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ใช้เพื่อการพัฒนาองค์กรและการพัฒนาบุคลากรไปแล้ว
ทั้งนี้ โดยดำเนินการจัดสรรเงินรางวัลให้กับทุกหน่วยงานในสัดส่วนที่เท่ากัน และเพื่อใช้สำหรับการจัดสรรเงินรางวัลตามผลการปฏิบัติราชการตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้ผู้ปฏิบัติของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา
4. ให้จัดสรรเงินรางวัลสำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่มีการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพียงก้อนเดียวรวมกันทั้งผู้บริหารและผู้ปฏิบัติ ของส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา โดยให้ส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษานำไปจัดสรรต่อในแต่ละหน่วยงานตามความเหมาะสม โดยให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติอยู่ในหลักเกณฑ์ แนวทาง และวิธีการจัดสรรเงินรางวัลเดียวกัน
5. เห็นชอบการปรับปรุงวิธีการคำนวณเพื่อจัดสรรเงินรางวัลให้กับทุกหน่วยงานที่มีผลการปฏิบัติราชการที่บรรลุเป้าหมายในระดับคะแนน 3.0000 ขึ้นไป และให้จัดสรรเงินรางวัลที่เหลือให้กับหน่วยงานที่มีคะแนน ตั้งแต่ 4.0000 คะแนนขึ้นไป
ทั้งนี้ ให้ ก.พ.ร. รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการที่ให้ไปทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 พฤษภาคม 2553--จบ--