การตรวจสอบปัญหาและประสานเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษจากการชุมนุมทางการเมือง

เรื่อง การตรวจสอบปัญหาและประสานเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษจากการชุมนุมทางการเมืองที่มีการเผายางรถยนต์และอาคารต่างๆ

ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

คณะรัฐมนตรีรับทราบการตรวจสอบปัญหาและประสานเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษจากการชุมนุมทางการเมืองที่มีการเผายางรถยนต์และอาคารต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่มเผายางรถยนต์และอาคารต่าง ๆ หลายจุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในระหว่างวันที่ 17 — 19 พฤษภาคม 2553 ก่อให้เกิดกลุ่มควันสีดำแพร่กระจายออกสู่บรรยากาศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศและความกังวลด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในกรุงเทพมหานคร

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้การสนับสนุนข้อมูลประกอบการดำเนินงานให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอข้อมูลสู่สาธารณชนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

1. ผลการประเมินสถานการณ์คุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 11 สถานี พบว่า สารมลพิษหลัก ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซโอโซน มีปริมาณอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งนี้ อาจเนื่องจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศอยู่ห่างจากบริเวณที่มีการเผายางรถยนต์และอาคาร ประกอบกับทิศทางและกระแสลมมีส่วนช่วยในการแพร่กระจายสารมลพิษ

2. ให้การสนับสนุนข้อมูลให้หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่ ได้แก่ สำนักอนามัยและสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสื่อมวลชนต่าง ๆ

3. จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบและตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่มีการเผายางรถยนต์และอาคารต่าง ๆ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2553 ในบริเวณพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แยกบ่อนไก่ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ใกล้แยกราชประสงค์ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศโดยใช้เครื่องตรวจวัดมลพิษภาคสนาม ตรวจไม่พบสารอินทรีย์ระเหยรวม ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างโดยใช้ถังเก็บอากาศ (Canister) เพื่อนำไปตรวจหาสารไฮโดรคาร์บอนและสารอินทรีย์ระเหยในห้องปฏิบัติการต่อไป

4. ผลการตรวจวัดสารมลพิษจากการเผายางรถยนต์บนพื้นถนนบริเวณสี่แยกบ่อนไก่ พบว่า มีปริมาณเขม่าหรือฝุ่นขนาดเล็กที่เป็นเศษเหลือจากการเผายางรถยนต์ปริมาณมากกระจายทั่วไปในพื้นที่ เมื่อมีลมพัดจะเกิดการฟุ้งกระจายและอาจส่งผลกระทบกับชุมชนได้ จากการเก็บเขม่าหรือฝุ่นละอองเศษเหลือจากการเผา จำนวน 2 ตัวอย่าง และทำการตรวจวัดโดยใช้เครื่อง X — Ray Fluorescent พบว่า มีการปนเปื้อนของโลหะหนักบางชนิดในปริมาณ ดังนี้ (1) สังกะสี (Zn) 58,849 ppm (2) ทองแดง (Cu) 196 ppm และ 3) ตะกั่ว (Pb) 157 ppm โดยปริมาณสังกะสีที่ตรวจพบอยู่ในระดับเกินเกณฑ์มาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2548 ที่กำหนดให้สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วต้องมีองค์ประกอบของสังกะสีไม่เกิน 5,000 ppm สำหรับปริมาณทองแดงและตะกั่วที่ตรวจพบมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด แต่ยังคงมีความเสี่ยงด้านสุขภาพอนามัย เนื่องจากสารมลพิษที่ตรวจพบดังกล่าวเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษ หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวได้ และผลการตรวจวัดความเป็นกรด — ด่างของเขม่า โดยการละลายเขม่าในน้ำ พบว่า มีค่าเป็นกรดเล็กน้อย โดยตรวจวัดค่า pH ได้ประมาณ 6

5. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประสานงานไปยัง กรุงเทพมหานคร แจ้งข้อควรระวังในการทำความสะอาดพื้นที่ที่มีการเผา ต้องไม่ก่อให้เกิดการฟุ้งกระจายของฝุ่นละออง อาจใช้การพรมน้ำช่วยในการลดปริมาณฝุ่นละอองแล้วรวบรวมนำไปกำจัดให้ถูกวิธีโดยต้องป้องกันการรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติด้วย สำหรับการจัดเก็บยางรถยนต์และเศษยางรถยนต์ที่เหลือจากการเผาควรนำไปกำจัดให้ถูกวิธี โดยนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตปูนซิเมนต์

6. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เผยแพร่ข้อมูลผลการตรวจวัดสารมลพิษบริเวณสี่แยกบ่อนไก่ ต่อประชาชน รวมถึงการแจ้งเตือนเรื่องการเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพ ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยการหลีกเลี่ยงการรองหรือใช้น้ำฝนในช่วงฝนแรก เป็นต้น

7. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารมลพิษต่างๆ ในน้ำฝนต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤษภาคม 2553--จบ--