เรื่อง การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและสารสนเทศ
และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างบาห์เรนกับไทย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอทั้ง 2 ข้อดังนี้
1. อนุมัติการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสาขาวัฒนธรรมและสารสนเทศ และบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสาขาการท่องเที่ยว
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศเป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งสองฉบับดังกล่าว
สาระสำคัญ/ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
1. บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสาขาวัฒนธรรมและสารสนเทศ มีวัตถุประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือทางวัฒนธรรมและสารสนเทศระหว่างกัน โดยครอบคลุมความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาความรู้และความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในสาขาศิลปะและวัฒนธรรม สื่อมวลชน และกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้านวัฒนธรรม ความร่วมมือระหว่างสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ระหว่างนักหนังสือพิมพ์ ผู้แทนสื่อมวลชนอื่น ๆ การประชุมร่วมกันในรายละเอียดและมาตรการเพิ่มเติม และประเมินผลการดำเนินงาน
2. บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยในสาขาการท่องเที่ยว มีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ โดยครอบคลุมความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ความเชี่ยวชาญ การแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนสื่อมวลชน การเผยแพร่ความรู้ด้านโอกาสในการลงทุนด้านการท่องเที่ยว การจัดสัปดาห์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม งานนิทรรศการ การประชุม และการประชุมทางวิชาการ ความร่วมมือทางการตลาด และการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะด้านเพื่อดำเนินการตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของบันทึกความเข้าใจ
3. โดยที่ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งสองฉบับนี้มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดขอบข่ายความร่วมมือทางด้าน 1) การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและสารสนเทศ และ 2) การท่องเที่ยว ภายใต้กรอบกฎหมายภายในของทั้งสองฝ่าย จึงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามพันธกรณีบันทึกความเข้าใจฯ สามารถปฏิบัติได้ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับโดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา ร่างบันทึกความเข้าใจฯ ทั้งสองฉบับก็ไม่น่าจะเข้าข่ายมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 25 พฤษภาคม 2553--จบ--