คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
2. เห็นชอบกับเงื่อนไขการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจของสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (สปท.) โดยเห็นชอบกับข้อเสนอแนวทางการเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และองค์ความรู้ในการพัฒนาสินทรัพย์ให้เป็นทุนที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้แนวทางของโครงการพระราชดำริและพระราชเสาวนีย์ และเห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 เพื่อดำเนินการถ่ายโอนภารกิจตามข้อเสนอดังกล่าว และงบประมาณเงินอุดหนุนของ สปท. ที่ยังมิได้ผูกพันรายการใช้จ่าย วงเงิน 250 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิโครงการหลวงเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการ และให้ “คณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง” ซึ่งมีอยู่แล้วทำหน้าที่กำกับการดำเนินงาน
3. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตาม ดูแลภารกิจที่ถ่ายโอนให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้นชุดหนึ่ง โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี และมอบให้ สศช. รับไปดำเนินการโดยให้ถ่ายโอนงบประมาณเงินอุดหนุนของ สปท. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการของคณะกรรมการฯ
4. มอบหมายให้คณะกรรมการ สปท. ดำเนินการคัดเลือกบุคลากรของ สปท. ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่ถ่ายโอนจำนวนไม่เกิน 5 คน และที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการชำระบัญชีจำนวนไม่เกิน 3 คน เพื่อจ้างมาช่วยสนับสนุนการดำเนินการกำกับ ติดตาม ดูแลภารกิจที่ถ่ายโอน และช่วยเหลือผู้ชำระบัญชี
5. เห็นชอบหลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่ายค่าช่วยเหลือ (เยียวยา) แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของ สปท.
6. เห็นชอบให้ยุติภารกิจและบอกเลิกสัญญาจ้างบุคลากร สปท. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550
7. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... เพื่อส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการตรวจร่างต่อไป และเห็นชอบในหลักการร่างหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการตรวจสอบทรัพย์สินและชำระบัญชีการโอน หรือการจำหน่ายทรัพย์สินและการจัดการเกี่ยวกับบุคลากรของ สปท. (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
1. รับทราบผลการดำเนินการของคณะกรรมการสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
2. เห็นชอบกับเงื่อนไขการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจของสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (สปท.) โดยเห็นชอบกับข้อเสนอแนวทางการเสริมสร้างกระบวนการเรียนรู้และองค์ความรู้ในการพัฒนาสินทรัพย์ให้เป็นทุนที่ยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้แนวทางของโครงการพระราชดำริและพระราชเสาวนีย์ และเห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 เพื่อดำเนินการถ่ายโอนภารกิจตามข้อเสนอดังกล่าว และงบประมาณเงินอุดหนุนของ สปท. ที่ยังมิได้ผูกพันรายการใช้จ่าย วงเงิน 250 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิโครงการหลวงเป็นหน่วยรับผิดชอบดำเนินการ และให้ “คณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง” ซึ่งมีอยู่แล้วทำหน้าที่กำกับการดำเนินงาน
3. เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตาม ดูแลภารกิจที่ถ่ายโอนให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ขึ้นชุดหนึ่ง โดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี และมอบให้ สศช. รับไปดำเนินการโดยให้ถ่ายโอนงบประมาณเงินอุดหนุนของ สปท. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการของคณะกรรมการฯ
4. มอบหมายให้คณะกรรมการ สปท. ดำเนินการคัดเลือกบุคลากรของ สปท. ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจที่ถ่ายโอนจำนวนไม่เกิน 5 คน และที่เกี่ยวข้องกับภารกิจการชำระบัญชีจำนวนไม่เกิน 3 คน เพื่อจ้างมาช่วยสนับสนุนการดำเนินการกำกับ ติดตาม ดูแลภารกิจที่ถ่ายโอน และช่วยเหลือผู้ชำระบัญชี
5. เห็นชอบหลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่ายค่าช่วยเหลือ (เยียวยา) แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของ สปท.
6. เห็นชอบให้ยุติภารกิจและบอกเลิกสัญญาจ้างบุคลากร สปท. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550
7. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกายุบเลิกสำนักงานบริหารการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... เพื่อส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการตรวจร่างต่อไป และเห็นชอบในหลักการร่างหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการตรวจสอบทรัพย์สินและชำระบัญชีการโอน หรือการจำหน่ายทรัพย์สินและการจัดการเกี่ยวกับบุคลากรของ สปท. (องค์การมหาชน) เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนให้มีผลบังคับใช้ต่อไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--