แท็ก
มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
กระทรวงการต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
ร่างพระราชบัญญัติ
มหาวิทยาลัยบูรพา
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การดำเนินงานขององค์การระหว่างประเทศและศูนย์การประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า ได้พิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การดำเนินงานขององค์การระหว่างประเทศและศูนย์การประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 แล้ว ขอยืนยันให้ดำเนินการร่างพระราชบัญญัติต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “องค์การระหว่างประเทศ” “การประชุมระหว่างประเทศ” “การดำเนินงาน” และ “เจ้าหน้าที่” (ร่างมาตรา 4)
2. ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การระหว่างประเทศเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาในประเทศไทย และให้องค์การระหว่างประเทศ สถานที่ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ บรรณสารขององค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนของสมาชิก เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญหรือบุคคลอื่นที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อองค์การระหว่างประเทศ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจในประเทศ หรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่กำหนด และให้คู่สมรสของเจ้าหน้าที่สามารถทำงานหรือประกอบธุรกิจได้ตามที่กฎหมายกำนหด แต่ไม่ได้รับเอกสิทธิและความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการทำงานหรือการประกอบธุรกิจนั้น (ร่างมาตรา 5)
3. ให้ธุรกรรมทางการเงินขององค์การระหว่างประเทศได้รับเอกสิทธิ์ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ราชอาณาจักรไทย หรือรัฐบาลไทยได้ทำไว้ หรือจะทำต่อไปกับองค์การระหว่างประเทศเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ (ร่างมาตรา 6)
4. เพื่อคุ้มครองการประชุมระหว่างประเทศให้สถานที่ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ หนี้สิน บรรณสารของการประชุมระหว่างประเทศ ผู้แทนของรัฐหรือรัฐบาลและบุคคลที่เข้าร่วมประชุม หรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 7)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 กรกฎาคม 2550--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า ได้พิจารณาทบทวนร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์การดำเนินงานขององค์การระหว่างประเทศและศูนย์การประชุมระหว่างประเทศ พ.ศ. ... ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2550 แล้ว ขอยืนยันให้ดำเนินการร่างพระราชบัญญัติต่อไป จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มาเพื่อดำเนินการ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดนิยามคำว่า “องค์การระหว่างประเทศ” “การประชุมระหว่างประเทศ” “การดำเนินงาน” และ “เจ้าหน้าที่” (ร่างมาตรา 4)
2. ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การระหว่างประเทศเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาในประเทศไทย และให้องค์การระหว่างประเทศ สถานที่ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ บรรณสารขององค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนของสมาชิก เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญหรือบุคคลอื่นที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อองค์การระหว่างประเทศ ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจในประเทศ หรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติภารกิจได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่กำหนด และให้คู่สมรสของเจ้าหน้าที่สามารถทำงานหรือประกอบธุรกิจได้ตามที่กฎหมายกำนหด แต่ไม่ได้รับเอกสิทธิและความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการทำงานหรือการประกอบธุรกิจนั้น (ร่างมาตรา 5)
3. ให้ธุรกรรมทางการเงินขององค์การระหว่างประเทศได้รับเอกสิทธิ์ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ราชอาณาจักรไทย หรือรัฐบาลไทยได้ทำไว้ หรือจะทำต่อไปกับองค์การระหว่างประเทศเท่าที่จำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ (ร่างมาตรา 6)
4. เพื่อคุ้มครองการประชุมระหว่างประเทศให้สถานที่ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ หนี้สิน บรรณสารของการประชุมระหว่างประเทศ ผู้แทนของรัฐหรือรัฐบาลและบุคคลที่เข้าร่วมประชุม หรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในการประชุมได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่กำหนด (ร่างมาตรา 7)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 กรกฎาคม 2550--จบ--