คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับยางพาราทั้งระบบ ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้จัดตั้งองค์การขึ้น เรียกว่า "การยางแห่งประเทศไทย" (กยท.) เป็นนิติบุคคล
2. กยท. มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบครบวงจร บริหารเงินกองทุนพัฒนายางพารา ส่งเสริมสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรมยางพารา ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง ดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพ ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพผลผลิตและระบบตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา ส่งเสริมให้เกษตรกรสวนยางรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ส่งเสริมสนับสนุนร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตยางพาราและองค์กรต่างประเทศเกี่ยวกับยางพารา รวมทั้งเข้าร่วมกับนิติบุคคล จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา เป็นต้น
3. คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน มีผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยเป็นเลขานุการ
4. ให้จัดตั้งกองทุนพัฒนายางพารา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนายางพารา
5. การกำหนดค่าธรรมเนียมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรีก่อน
6. การจัดสรรเงินจากกองทุนกรณีเงินของกองทุนหรือรายได้ไม่เพียงพอให้รัฐตั้งรายจ่ายเพิ่มเติมในงบประมาณประจำปีตามความจำเป็น และกำหนดให้ผู้ว่าการแยกบัญชีและเอกสารการเงินหรือทรัพย์สินอื่นของกองทุนออกจากบัญชีและเอกสารเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินอื่นของ กยท.
7. คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ระงับการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งของคณะกรรมการหรือพนักงานซึ่งสั่งการตามพระราชบัญญัติ และอาจเข้าไปในสวนยางเพื่อตรวจสอบ รังวัด มีหนังสือเรียกเกษตรกรสวนยางมาให้ข้อเท็จจริง ให้ถ้อยคำ สำหรับเอกสารใด ๆ
8. กำหนดเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการตรวจสอบ โดยกำหนดให้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าภาระหน้าที่แล้ว นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ และให้ กยท. ทำรายงานผลการสอบบัญชีและการเงินปีละครั้งเสนอต่อรัฐมนตรี
9. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของ กยท. และในการดำเนินกิจการเกี่ยวกับการเพิ่มหรือลดทุน กู้ยืมและให้กู้ยืมเงินเกินห้าสิบล้านบาท จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ราคาเกินห้าสิบบาท ออกพันธบัตรหรือตราสารเพิ่มการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือมหาชนจำกัด กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นหรือที่ถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนเกินร้อยละห้าสิบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 มิถุนายน 2548--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารจัดการเกี่ยวกับยางพาราทั้งระบบ ซึ่งคณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้จัดตั้งองค์การขึ้น เรียกว่า "การยางแห่งประเทศไทย" (กยท.) เป็นนิติบุคคล
2. กยท. มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบครบวงจร บริหารเงินกองทุนพัฒนายางพารา ส่งเสริมสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการอุตสาหกรรมยางพารา ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง ดำเนินการให้ระดับราคายางพารามีเสถียรภาพ ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพผลผลิตและระบบตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา ส่งเสริมให้เกษตรกรสวนยางรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ส่งเสริมสนับสนุนร่วมมือกับประเทศผู้ผลิตยางพาราและองค์กรต่างประเทศเกี่ยวกับยางพารา รวมทั้งเข้าร่วมกับนิติบุคคล จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา เป็นต้น
3. คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ประกอบด้วยประธานกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 5 คน มีผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทยเป็นเลขานุการ
4. ให้จัดตั้งกองทุนพัฒนายางพารา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนายางพารา
5. การกำหนดค่าธรรมเนียมการส่งยางออกนอกราชอาณาจักรต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรีก่อน
6. การจัดสรรเงินจากกองทุนกรณีเงินของกองทุนหรือรายได้ไม่เพียงพอให้รัฐตั้งรายจ่ายเพิ่มเติมในงบประมาณประจำปีตามความจำเป็น และกำหนดให้ผู้ว่าการแยกบัญชีและเอกสารการเงินหรือทรัพย์สินอื่นของกองทุนออกจากบัญชีและเอกสารเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินอื่นของ กยท.
7. คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้ระงับการส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรชาวสวนยางผู้ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งของคณะกรรมการหรือพนักงานซึ่งสั่งการตามพระราชบัญญัติ และอาจเข้าไปในสวนยางเพื่อตรวจสอบ รังวัด มีหนังสือเรียกเกษตรกรสวนยางมาให้ข้อเท็จจริง ให้ถ้อยคำ สำหรับเอกสารใด ๆ
8. กำหนดเกี่ยวกับการเงิน การบัญชี และการตรวจสอบ โดยกำหนดให้รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าภาระหน้าที่แล้ว นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ และให้ กยท. ทำรายงานผลการสอบบัญชีและการเงินปีละครั้งเสนอต่อรัฐมนตรี
9. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำกับดูแลทั่วไปซึ่งกิจการของ กยท. และในการดำเนินกิจการเกี่ยวกับการเพิ่มหรือลดทุน กู้ยืมและให้กู้ยืมเงินเกินห้าสิบล้านบาท จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ราคาเกินห้าสิบบาท ออกพันธบัตรหรือตราสารเพิ่มการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือมหาชนจำกัด กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นหรือที่ถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนเกินร้อยละห้าสิบต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 28 มิถุนายน 2548--จบ--