สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2553)

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 9, 2010 16:01 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2553) ของกระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ ภัยแล้งที่เกิดขึ้น และการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้

1. สรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 — 7 มิถุนายน 2553)

1.1 พื้นที่ประสบภัย 12 จังหวัด (ข้อมูล ณ วันที่ 1-7 มิถุนายน 2553) ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ตาก ลำปาง ลำพูน กาฬสินธุ์ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด และจังหวัดศรีสะเกษ รวม 102 อำเภอ 726 ตำบล 6,731 หมู่บ้าน แยกเป็น

ข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งปี 2553 (ข้อมูล ณ วันที่ 1-7 มิถุนายน 2553)

ที่                         พื้นที่ประสบภัย                                                       ราษฎรประสบภัย
   ภาค       จังหวัด     อำเภอ     ตำบล      หมู่บ้าน     รายชื่อจังหวัด                           คน      ครัวเรือน
1  เหนือ          5        43      276      2,139     เชียงราย เชียงใหม่ ตาก             726,676      229,822
                                                     ลำปาง ลำพูน
2  ตะวันออก       7        59      450      4,592     กาฬสินธุ์ นครราชสีมา มหาสารคาม    1,306,234      361,923
   เฉียงเหนือ                                          บุรีรัมย์ ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ
รวมทั้งประเทศ     12       102      726      6,731                                   2,032,910      591,745

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งในรอบ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่ ภาค       จำนวนหมู่บ้าน     4-10 พ.ค. 53         11-24 พ.ค. 53      25-31 พ.ค. 2553        1-7 มิ.ย. 2553
            ทั้งหมด          หมู่      + เพิ่ม       หมู่       + เพิ่ม       หมู่       + เพิ่ม        หมู่      + เพิ่ม
                           บ้าน      - ลด       บ้าน       - ลด       บ้าน       - ลด       บ้าน       - ลด
1 เหนือ        16,590     2,871      -990     2,871          0     2,871          0     2,139       -732
2 ตะวันออก     33,099     9,055    -3,170     9,055          0     9,055          0     4,592     -4,463
  เฉียงเหนือ
  รวม         74,944    11,926    -4,160    11,926          0    11,926          0     6,731     -5,195

เปรียบเทียบกับสถานการณ์ภัยแล้ง ระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม 2553-31 พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีพื้นที่ประสบภัยแล้ง รวม 25 จังหวัด 220 อำเภอ 1,500 ตำบล 12,557 หมู่บ้าน แต่เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้มีฝนตกทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลให้พื้นที่ประสบภัยแล้งคลี่คลายลงไป 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิจิตร แม่ฮ่องสอน สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ขอนแก่น มุกดาหาร เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี กาญจนบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนหมู่บ้านที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่ต่างๆ ลดลง 5,195 หมู่บ้าน

หมายเหตุ สถานการณ์ภัยแล้งปี 2553 ช่วงระยะเวลาที่มีสถานการณ์ภัยแล้งสูงสุดอยู่ในห้วงระหว่างวันที่ 12-19 เมษายน 2553 มีพื้นที่ประสบภัยแล้ง จำนวน 60 จังหวัด 463 อำเภอ 3,005 ตำบล 24,248 หมู่บ้าน

1.2 ความเสียหาย

พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย รวม 1,902,649 ไร่ แยกเป็น พืชไร่ 1,313,819 ไร่ นาข้าว 159,249 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 429,581 ไร่ โดยมีพื้นที่เกษตรกรเสียหายแล้ว จำนวน 117,336 ไร่ ในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครพนม หนองคาย ร้อยเอ็ด เลย กาญจนบุรี กระบี่ และจังหวัดตรัง

1.3 การให้ความช่วยเหลือ

1) ใช้รถบรรทุกน้ำ 239 คัน แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคแล้ว จำนวน 51,681,024 ลิตร

2) ซ่อมสร้างทำนบ/ฝายชั่วคราวปิดกั้นลำน้ำ 665 แห่ง

3) ขุดลอกแหล่งน้ำ 142 แห่ง

4) งบประมาณดำเนินการใช้จ่ายไปแล้ว 253,399,340 บาท แยกเป็น

  • งบทดรองราชการของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) 24,462,671 บาท
  • งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 228,147,149 บาท (ข้อมูลกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น)
  • งบอื่น ๆ 789,520 บาท

5) กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ 849 เครื่อง ไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ 46 จังหวัด โดยแยกเป็นรายภาค ดังนี้ ภาคเหนือ 277 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 249 เครื่อง ภาคกลาง 157 เครื่อง ภาคตะวันออก 84 เครื่อง และภาคใต้ 82 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำ 33 คัน 3,628 เที่ยว รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 21,768,000 ลิตร

6) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 3,292 เที่ยว รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 21,363,000 ลิตร

7) ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 3,699 เที่ยว รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 24,918,000 ลิตร

8) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 557 เที่ยว รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 3,474,096 ลิตร

9) การประปาส่วนภูมิภาค ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย โดยไม่คิดมูลค่าเป็นจำนวน 359.059 ล้านลิตร และคิดเป็นยอดเงินรวม จำนวน 5,839,969 บาท

10) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้จัดรถบรรทุกน้ำ 33 คัน เพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 10,584,800 ลิตร

11) กรมทรัพยากรน้ำ ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 1,346,000 ลิตร

12) กรมทรัพยากรน้ำบาดาล แจกน้ำจากจุดจ่ายน้ำถาวร 100 แห่ง ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 81.40 ล้านลิตร

13) กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภค ให้แก่ราษฎรผู้ประสบภัย รวมปริมาณน้ำจำนวนทั้งสิ้น 236,000 ลิตร

14) สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการ 83 วัน จำนวน 2,196 เที่ยว ในพื้นที่ 70 จังหวัด

อนึ่ง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2553 เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรงในพื้นที่ จังหวัดราชบุรี อำเภอปากท่อ ตำบลทุ่งหลวง ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายประมาณ 40 ครัวเรือน รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี (นายณรงค์ พลละเอียด) หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดราชบุรี สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

2. สิ่งของพระราชทาน

สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้นำหน่วยรถผลิตน้ำดื่มไปบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งในพื้นที่อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี รวมจ่ายน้ำให้กับประชาชนทั้งสิ้น จำนวน 982,000 ลิตร

3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 7-12 มิถุนายน 2553

3.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ในวันที่ 7 มิถุนายน 2553 ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองกระจาย สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงวันที่ 7-11 มิถุนายน 2553 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนลดลง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนในช่วงวันที่ 7-9 มิถุนายน 2553 ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง หลังจากนั้น ในช่วงวันที่ 10-12 มิถุนายน 2553 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังอ่อนลง

3.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศในวันที่ 7-9 มิถุนายน 2553 ให้จังหวัดในภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะฝนตกหนักและคลื่นลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน บ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร และให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์เมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มิถุนายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ