คณะรัฐมนตรีรับทราบปัญหาการแตกร่อนบริเวณทางขับ และทางวิ่งของสนามบินสุวรรณภูมิ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อมวลชนมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 เกี่ยวกับปัญหาการเกิดรอยแตกร่อนบริเวณทางขับ และทางวิ่งของสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น
กระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในเรื่องความปลอดภัยของสนามบิน จึงได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ตลอดจนชี้แจงทำความเข้าใจให้สาธารณชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป พร้อมกันนี้กระทรวงคมนาคมได้รายงานสรุปข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผลการตรวจสอบในเบื้องต้น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และแนวทางการดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทอท. ได้ตรวจสอบพบในวันที่ 16 ตุลาคม 2549 ว่ามีรอยปริเกิดขึ้นที่ทางขับ T13 และต่อมาพบความเสียหายเพิ่มเติมมากขึ้นบริเวณทางขับอีก 19 จุด และบริเวณหัวทางวิ่งอีก 1 จุด สภาพความเสียหายเป็นในลักษณะมีรอยยุบเป็นแนวร่องล้อ และผิวบางส่วนหลุดร่อนตามแนวทิศทางการเคลื่อนตัวของเครื่องบิน โดยเฉพาะบริเวณเลี้ยวเข้าจุดจอด และบริเวณเลี้ยวเข้าสู่ทางวิ่ง Concourse E และ F
2. ผลการตรวจสอบเบื้องต้น คณะกรรมการ ทอท. มอบหมายให้ รศ.ดร. ต่อตระกูล ยมนาค กรรมการทอท. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการดำเนินการตรวจสอบร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ในวันที่ 27 ตุลาคม 2549 และวันที่ 15 มกราคม 2550 ได้ข้อสรุปในเบื้องต้น ดังนี้
2.1 การเกิดรอยร้าว (Crack) และร่องล้อ (Rutting) ที่ผิวทาง (Pavement) เป็นอาการของความวิบัติ (Failure) ที่อาจจะเกิดจากกำลังของโครงสร้างผิวทาง (Pavement Structure) ไม่เพียงพอและ/หรือเกิดจากการทำให้อ่อนกำลังโดยน้ำซึม (Water Softening)
2.2 น้ำที่พบในวัสดุชั้น Asphaltic Concrete Base Course และผิวบนของ Cement Treated Base
1) อาจจะเกิดจากน้ำซึมลงจากผิวบน (Surface) ผ่านรอยร้าวที่เกิดขึ้น
2) ส่วนน้ำก็มีโอกาสซึมขึ้นจากด้านล่าง ถ้าการควบคุมระดับน้ำและเกณฑ์การออกแบบโครงสร้างผิวทางไม่สอดคล้องกัน ซึ่งในกรณีนี้ น้ำอาจจะซึมผ่านชั้น Cement Treated Base ขึ้นมา จนกระทั่งน้ำเข้าถึงชั้น Asphaltic Concrete Surface ได้
2.3 วัสดุ Asphaltic Concrete หรือวัสดุอื่นใดของโครงสร้างผิวทาง ถ้าหากชุ่มน้ำอยู่นานจะสูญเสียกำลังได้
2.4 ตามเกณฑ์ปกติทั่วไป ต้องควบคุมระดับน้ำไม่ให้ขึ้นสูงถึงด้านล่างของโครงสร้างผิวทาง ซึ่งในกรณีของทางขับของสนามบินสุวรรณภูมิคือ ชั้น Cement Treated Base
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากสาเหตุ 3 กรณี ได้แก่ การก่อสร้างหรือวัสดุ น้ำท่วมและการดูแลบำรุงรักษา และการออกแบบ ซึ่งยังไม่อาจสรุปในขณะนี้ได้ว่า จะเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งใน 3 สมมุติฐานนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ได้พบรอยแตกและยุบของพื้นทางวิ่งเพิ่มเติมอีก 2 จุด มีลักษณะความเสียหายเช่นเดียวกับบริเวณทางขับ ทำให้ข้อสรุปที่สนับสนุนสาเหตุอันเกิดจากน้ำท่วม และความบกพร่องในการสูบน้ำท่วมออกจากบริเวณมีน้ำหนักอ่อนลงมาก แต่เหตุการณ์ยุบของพื้นทางวิ่งใหม่ เป็นเหตุสนับสนุนได้ว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการออกแบบ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่ขณะนี้ยังมิได้เป็นข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์จากฝ่ายต่าง ๆ แต่อย่างใด จนกว่าจะมีการสำรวจและวิเคราะห์มากกว่านี้
3. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทอท. ได้ดำเนินการแก้ไขโดยปิดซ่อมแซมในพื้นที่ส่วนที่เสียหาย ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 7 พื้นที่ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการแก้ไข โดยร่วมดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และผู้รับจ้าง) และนอกจากนี้ยังได้มีการบริหารจัดการให้มีบริการเที่ยวบินเป็นไปได้ตามปกติ
4. แนวทางการดำเนินการต่อไป กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ทอท. เร่งซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถาวร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 มกราคม 2550--จบ--
ตามที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อมวลชนมาโดยตลอด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 เกี่ยวกับปัญหาการเกิดรอยแตกร่อนบริเวณทางขับ และทางวิ่งของสนามบินสุวรรณภูมิ นั้น
กระทรวงคมนาคมได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือในเรื่องความปลอดภัยของสนามบิน จึงได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาทางแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ตลอดจนชี้แจงทำความเข้าใจให้สาธารณชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบต่อไป พร้อมกันนี้กระทรวงคมนาคมได้รายงานสรุปข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ผลการตรวจสอบในเบื้องต้น การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และแนวทางการดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทอท. ได้ตรวจสอบพบในวันที่ 16 ตุลาคม 2549 ว่ามีรอยปริเกิดขึ้นที่ทางขับ T13 และต่อมาพบความเสียหายเพิ่มเติมมากขึ้นบริเวณทางขับอีก 19 จุด และบริเวณหัวทางวิ่งอีก 1 จุด สภาพความเสียหายเป็นในลักษณะมีรอยยุบเป็นแนวร่องล้อ และผิวบางส่วนหลุดร่อนตามแนวทิศทางการเคลื่อนตัวของเครื่องบิน โดยเฉพาะบริเวณเลี้ยวเข้าจุดจอด และบริเวณเลี้ยวเข้าสู่ทางวิ่ง Concourse E และ F
2. ผลการตรวจสอบเบื้องต้น คณะกรรมการ ทอท. มอบหมายให้ รศ.ดร. ต่อตระกูล ยมนาค กรรมการทอท. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้มีการดำเนินการตรวจสอบร่วมกับคณะผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ว.ส.ท.) ในวันที่ 27 ตุลาคม 2549 และวันที่ 15 มกราคม 2550 ได้ข้อสรุปในเบื้องต้น ดังนี้
2.1 การเกิดรอยร้าว (Crack) และร่องล้อ (Rutting) ที่ผิวทาง (Pavement) เป็นอาการของความวิบัติ (Failure) ที่อาจจะเกิดจากกำลังของโครงสร้างผิวทาง (Pavement Structure) ไม่เพียงพอและ/หรือเกิดจากการทำให้อ่อนกำลังโดยน้ำซึม (Water Softening)
2.2 น้ำที่พบในวัสดุชั้น Asphaltic Concrete Base Course และผิวบนของ Cement Treated Base
1) อาจจะเกิดจากน้ำซึมลงจากผิวบน (Surface) ผ่านรอยร้าวที่เกิดขึ้น
2) ส่วนน้ำก็มีโอกาสซึมขึ้นจากด้านล่าง ถ้าการควบคุมระดับน้ำและเกณฑ์การออกแบบโครงสร้างผิวทางไม่สอดคล้องกัน ซึ่งในกรณีนี้ น้ำอาจจะซึมผ่านชั้น Cement Treated Base ขึ้นมา จนกระทั่งน้ำเข้าถึงชั้น Asphaltic Concrete Surface ได้
2.3 วัสดุ Asphaltic Concrete หรือวัสดุอื่นใดของโครงสร้างผิวทาง ถ้าหากชุ่มน้ำอยู่นานจะสูญเสียกำลังได้
2.4 ตามเกณฑ์ปกติทั่วไป ต้องควบคุมระดับน้ำไม่ให้ขึ้นสูงถึงด้านล่างของโครงสร้างผิวทาง ซึ่งในกรณีของทางขับของสนามบินสุวรรณภูมิคือ ชั้น Cement Treated Base
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น สามารถนำมาวิเคราะห์ได้ว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากสาเหตุ 3 กรณี ได้แก่ การก่อสร้างหรือวัสดุ น้ำท่วมและการดูแลบำรุงรักษา และการออกแบบ ซึ่งยังไม่อาจสรุปในขณะนี้ได้ว่า จะเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งใน 3 สมมุติฐานนี้
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา ได้พบรอยแตกและยุบของพื้นทางวิ่งเพิ่มเติมอีก 2 จุด มีลักษณะความเสียหายเช่นเดียวกับบริเวณทางขับ ทำให้ข้อสรุปที่สนับสนุนสาเหตุอันเกิดจากน้ำท่วม และความบกพร่องในการสูบน้ำท่วมออกจากบริเวณมีน้ำหนักอ่อนลงมาก แต่เหตุการณ์ยุบของพื้นทางวิ่งใหม่ เป็นเหตุสนับสนุนได้ว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากการออกแบบ ซึ่งมีความเป็นไปได้มากที่สุด แต่ขณะนี้ยังมิได้เป็นข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์จากฝ่ายต่าง ๆ แต่อย่างใด จนกว่าจะมีการสำรวจและวิเคราะห์มากกว่านี้
3. การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ทอท. ได้ดำเนินการแก้ไขโดยปิดซ่อมแซมในพื้นที่ส่วนที่เสียหาย ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 7 พื้นที่ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการแก้ไข โดยร่วมดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด และผู้รับจ้าง) และนอกจากนี้ยังได้มีการบริหารจัดการให้มีบริการเที่ยวบินเป็นไปได้ตามปกติ
4. แนวทางการดำเนินการต่อไป กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ทอท. เร่งซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างถาวร
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 มกราคม 2550--จบ--