คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณสำหรับรายการรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2550 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการต่าง ๆ ที่มีวงเงินการก่อหนี้ผูกพันทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 816 รายการ เป็นเงินงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวน 11,800.3 ล้านบาท และเป็นจำนวนภาระผูกพันทั้งสิ้น 58,427.0 ล้านบาท
สำหรับรายการที่มีวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีทั้งสิ้นเกิน 1,000 ล้านบาท มีจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย สำนักนายกรัฐมนตรี 1 รายการ กระทรวงกลาโหม 4 รายการ กระทรวงมหาดไทย 3 รายการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รายการ กระทรวงศึกษาธิการ 1 รายการ และรัฐวิสาหกิจ 1 รายการ รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 53,837.5 ล้านบาท และเป็นงบประมาณที่จะต้องจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวน 5,263.2 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีเห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของเรื่องพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเป็นกรณี ๆ ไป
2. อนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่อาจดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 สามารถก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ดังนี้
2.1 หลักเกณฑ์ ข้อ 1.3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 กำหนดสัดส่วนภาระผูกพันงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเปรียบเทียบกับรายจ่ายลงทุนในปัจจุบันจะต้องไม่เกินกว่าสัดส่วนที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 60 40 20 และ 10 ในปีแรก ปีที่สอง ปี่สาม และปีที่สี่ ตามลำดับ ปรากฏว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 มีหน่วยงานที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ จำนวน 4 หน่วยงาน คือ กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้หน่วยงานดังกล่าวมีโครงการเร่งด่วนสำคัญ เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายฯ โครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ และโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เป็นต้น ที่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จึงทำให้สัดส่วนภาระผูกพันงบประมาณเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.2 หลักเกณฑ์ ข้อ 1.6 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 กำหนดให้รายการผูกพันงบประมาณทุกรายการต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของวงเงินรายจ่ายส่วนที่เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้นของรายการนั้น ๆ โดยไม่รวมเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด ปรากฏว่ามีส่วนราชการจำนวน 5 หน่วยงาน มีรายการผูกพันรวมจำนวน 6 รายการ ที่มิได้ตั้งงบประมาณไว้ให้ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ทั้งนี้ เนื่องจากบางหน่วยงานมีความประสงค์จะใช้เงินรายได้สมทบ และบางหน่วยงานเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณในปีแรกถึงร้อยละ 20 ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยรายชื่อหน่วยงานและจำนวนรายการปรากฏ ดังนี้
หน่วยงาน จำนวนรายการ
(1) กรมทางหลวงชนบท 2
(2) มหาวิทยาลัยมหิดล 1
(3) มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 1
(4) มหาวิทยาลัยนครพนม 1
(5) องค์การสวนสัตว์ 1
รวม 6
3. รายการที่ได้รับอนุมัติให้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในครั้งนี้ หากเป็นรายการผูกพันที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ ฯลฯ ขอให้สำนักงบประมาณสามารถพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ สามารถปรับแผนจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--
1. อนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการต่าง ๆ ที่มีวงเงินการก่อหนี้ผูกพันทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวน 816 รายการ เป็นเงินงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวน 11,800.3 ล้านบาท และเป็นจำนวนภาระผูกพันทั้งสิ้น 58,427.0 ล้านบาท
สำหรับรายการที่มีวงเงินการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีทั้งสิ้นเกิน 1,000 ล้านบาท มีจำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย สำนักนายกรัฐมนตรี 1 รายการ กระทรวงกลาโหม 4 รายการ กระทรวงมหาดไทย 3 รายการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 รายการ กระทรวงศึกษาธิการ 1 รายการ และรัฐวิสาหกิจ 1 รายการ รวมเป็นค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 53,837.5 ล้านบาท และเป็นงบประมาณที่จะต้องจ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จำนวน 5,263.2 ล้านบาท คณะรัฐมนตรีเห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเจ้าของเรื่องพิจารณาและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่งเป็นกรณี ๆ ไป
2. อนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ไม่อาจดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 สามารถก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ดังนี้
2.1 หลักเกณฑ์ ข้อ 1.3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 กำหนดสัดส่วนภาระผูกพันงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในปีต่อ ๆ ไป เมื่อเปรียบเทียบกับรายจ่ายลงทุนในปัจจุบันจะต้องไม่เกินกว่าสัดส่วนที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 60 40 20 และ 10 ในปีแรก ปีที่สอง ปี่สาม และปีที่สี่ ตามลำดับ ปรากฏว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 มีหน่วยงานที่ไม่สามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้ จำนวน 4 หน่วยงาน คือ กรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานอัยการสูงสุด ทั้งนี้หน่วยงานดังกล่าวมีโครงการเร่งด่วนสำคัญ เช่น โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครส่วนต่อขยายฯ โครงการพัฒนาศิริราชสู่สถาบันการแพทย์ชั้นเลิศในเอเชียอาคเนย์ และโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย เป็นต้น ที่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ.2550 จึงทำให้สัดส่วนภาระผูกพันงบประมาณเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2.2 หลักเกณฑ์ ข้อ 1.6 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2541 กำหนดให้รายการผูกพันงบประมาณทุกรายการต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในปีแรกไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 ของวงเงินรายจ่ายส่วนที่เป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้นของรายการนั้น ๆ โดยไม่รวมเงินเผื่อเหลือเผื่อขาด ปรากฏว่ามีส่วนราชการจำนวน 5 หน่วยงาน มีรายการผูกพันรวมจำนวน 6 รายการ ที่มิได้ตั้งงบประมาณไว้ให้ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ทั้งนี้ เนื่องจากบางหน่วยงานมีความประสงค์จะใช้เงินรายได้สมทบ และบางหน่วยงานเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินงบประมาณในปีแรกถึงร้อยละ 20 ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยรายชื่อหน่วยงานและจำนวนรายการปรากฏ ดังนี้
หน่วยงาน จำนวนรายการ
(1) กรมทางหลวงชนบท 2
(2) มหาวิทยาลัยมหิดล 1
(3) มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 1
(4) มหาวิทยาลัยนครพนม 1
(5) องค์การสวนสัตว์ 1
รวม 6
3. รายการที่ได้รับอนุมัติให้ผูกพันข้ามปีงบประมาณในครั้งนี้ หากเป็นรายการผูกพันที่จะต้องจ่ายในรูปของเงินตราต่างประเทศ เช่น รายการค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าอาคารสำนักงาน และค่าเช่าทรัพย์สินในต่างประเทศ ฯลฯ ขอให้สำนักงบประมาณสามารถพิจารณาอนุมัติวงเงินผูกพันที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ ในกรณีที่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ สามารถปรับแผนจากงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบอีก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550--จบ--