คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้ง 4 ข้อ ดังนี้
1. อนุมัติให้มีการลงนามในร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี (ASEAN — Korea Free Trade Area : AKFTA) ให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสามารถผนวกรายการสินค้าอ่อนไหวสูงในความตกลงดังกล่าว
2. มอบอำนาจให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนามในร่างพิธีสารฯ ตามข้อ 1
3. นำร่างพิธีสารฯ ตามข้อ 1 เสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
4. มอบให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ลงนาม หลังการดำเนินการตามข้อ 3 เสร็จสิ้นแล้ว และแจ้งผลการรับรองผูกพันพิธีสารฯ ของประเทศไทยต่อประเทศสมาชิกอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเป็นทางการ
ข้อเท็จจริง
1. โดยที่การรวบรวมเอกสารแนบท้ายความตกลง AKFTA ที่ได้ลงนามไปเมื่อปี 2549 เกิดความผิดพลาด เนื่องจากสำนักเลขาธิการอาเซียนไม่ได้แนบรายการสินค้าอ่อนไหวสูงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รวมเข้ากับความตกลงฯ ตามที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้เสนอ ประเทศสมาชิกอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลีจึงได้มีมติเห็นชอบให้จัดทำพิธีสารว่าด้วยการแก้ไขความตกลง AKFTA เพื่อผนวกรายการสินค้าอ่อนไหวสูงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเพิ่มเติมเข้ากับความตกลงฯ และได้กำหนดให้มีการลงนามในพิธีสารฯ ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2553
2. เมื่อลงนามร่างพิธีสารฯ แล้ว หน่วยงานภายในของไทยไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ใด ๆ เพิ่มเติมเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลผูกพันการดำเนินการที่เกี่ยวข้องมีเพียงกระทรวงพาณิชย์จะต้องแจ้งต่อกระทรวงการต่างประเทศให้แจ้งประเทศภาคีทราบถึงการเสร็จสิ้นของกระบวนการภายในประเทศที่ทำให้ความตกลงฯ มีผลผูกพันกับประเทศไทย
3. การลงนามพิธีสารฉบับนี้ไม่ได้ทำให้ไทยเสียสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการส่งออกไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไทยยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ตามเดิม แต่พิธีสารฉบับนี้จะส่งผลให้สาธารณรัฐเกาหลีต้องเสียอัตราอากรนำเข้าให้กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในอัตราเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 30
4. กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า การจัดทำพิธีสารเพื่อแก้ไขความตกลง AKFTA เป็นการดำเนินการเกี่ยวกับหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จึงควรปฏิบัติให้สอดคล้องตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
สาระสำคัญของเรื่อง
กำหนดให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสามารถผนวกบัญชีรายการสินค้าอ่อนไหวสูงจำนวน 40 รายการ เข้าไว้ในความตกลง AKFTA ส่งผลให้สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวสามารถเรียกเก็บอากรนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากสาธารณรัฐเกาหลีและอาเซียนได้ตามอัตราเดิม ทั้งนี้ ร่างพิธีสารฯ จะมีผลผูกพันกับประเทศภาคีใน 90 วัน หลังจากลงนาม หรือ ณ วันที่ประเทศภาคีแจ้งเสร็จสิ้นการดำเนินกระบวนการภายในประเทศเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลผูกพัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มิถุนายน 2553--จบ--