คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสถานการณ์ราคาและการผลิตสินค้าเกษตรเดือนพฤษภาคม 2553 และแนวโน้มเดือนมิถุนายน 2553 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
1. ผลผลิตออกสู่ตลาดมากเดือนพฤษภาคม ได้แก่ ข้าวนาปรัง สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน มังคุด เงาะ และลิ้นจี่ ในเดือนมิถุนายน ผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดมาก ได้แก่ สับปะรดโรงงาน เงาะ ลิ้นจี่และลองกอง โดยคาดว่าจะออกสู่ตลาด คิดเป็นร้อยละ 12.46 20.99 30.90 และ 22.18 ของผลผลิตทั้งหมด ตามลำดับราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา เดือนพฤษภาคม 2553 สินค้าหลายชนิดปรับตัว ลดลง จากเดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะ ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน ยางพาราและผลไม้ สินค้าที่มีราคาสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง สุกร และไก่เนื้อ ในเดือนมิถุนายนคาดว่าสินค้าส่วนใหญ่ราคาจะทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสินค้าที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ ผลไม้
2. ภาพรวมราคาสินค้าเกษตรของเดือนพฤษภาคม 2553 เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้นร้อยละ 21.43 โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลดลงร้อยละ 1.07 โดยสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน มังคุด เงาะโรงเรียน ลิ้นจี่ ลองกอง ยางพารา และกุ้งขาวแวนนาไม ส่วนสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเหนียว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ในเดือนมิถุนายน คาดว่าดัชนีราคาจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนพฤษภาคม และภาพรวมด้านการผลิตสินค้าเกษตร เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาดัชนีผลผลิตสูงขึ้นร้อยละ 5.77 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน สับปะรดโรงงาน ยางพารา สุกร ไก่เนื้อและ ไข่ไก่ และเมื่อเทียบกับเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดัชนีผลผลิตสูงขึ้นร้อยละ 0.60 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตสูงขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน สับปะรดโรงงาน ทุเรียน ยางพารา สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ ในเดือนมิถุนายน คาดว่าดัชนีผลผลิตจะลดลงเล็กน้อย เนื่องจาก สินค้าสำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี อ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง อยู่ในช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 มิถุนายน 2553--จบ--