แท็ก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ร่างพระราชบัญญัติ
โรงแรมคอนราด
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าการจัดโครงสร้างองค์กรและกองทุนควรพิจารณาไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่น และควรพิจารณาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดงบประมาณ เพื่อให้แก้ไขปัญหาการขาดเอกภาพ และการไม่บูรณาการในการบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง รวมทั้งรับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาต่อไป
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการและการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ยังขาดประสิทธิภาพทั้งทางด้านการควบคุมการใช้ประโยชน์และการปกป้องดูแลรักษาที่ดี ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพทางนิเวศและส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้ที่ดินชายฝั่งทะเลมากจนเกิดความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างรุนแรง พื้นที่ป่าชายเลนลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ แหล่งปะการัง และแหล่งหญ้าทะเลก็อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ลดลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพแวดล้อมของแหล่งน้ำเสื่อมโทรม ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตและการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ รวมทั้งนโยบายของรัฐเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งยังไม่มีเอกภาพ ขาดการบูรณาการ และไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลรักษาปกป้องบริหารฟื้นฟู รวมทั้งการจัดการการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ในปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและการควบคุมการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอยู่หลายฉบับเช่น พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เป็นต้น ซึ่งกฎหมายเหล่านี้อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานทำให้เกิดความไม่คล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเกิดปัญหาช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย จำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อให้การควบคุม ดูแลการอนุรักษ์ การใช้ประโยชน์และการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน กำหนดกรอบมาตรการควบคุมไม่ให้กระทำการอันเป็นการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งการกำหนดโทษทางอาญาและความรับผิดชอบทางแพ่งและมาตรการบังคับทางปกครอง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มิถุนายน 2550--จบ--
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการและการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ยังขาดประสิทธิภาพทั้งทางด้านการควบคุมการใช้ประโยชน์และการปกป้องดูแลรักษาที่ดี ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพทางนิเวศและส่งผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการใช้ที่ดินชายฝั่งทะเลมากจนเกิดความขัดแย้งในการใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังมีการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอย่างรุนแรง พื้นที่ป่าชายเลนลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการบุกรุกและเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ แหล่งปะการัง และแหล่งหญ้าทะเลก็อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้ลดลงเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสภาพแวดล้อมของแหล่งน้ำเสื่อมโทรม ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตและการขยายพันธุ์ของสัตว์น้ำ รวมทั้งนโยบายของรัฐเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งยังไม่มีเอกภาพ ขาดการบูรณาการ และไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลรักษาปกป้องบริหารฟื้นฟู รวมทั้งการจัดการการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ในปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาและการควบคุมการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอยู่หลายฉบับเช่น พระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เป็นต้น ซึ่งกฎหมายเหล่านี้อยู่ในความรับผิดชอบของหลายหน่วยงานทำให้เกิดความไม่คล่องตัวในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเกิดปัญหาช่องว่างในการบังคับใช้กฎหมาย จำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อให้การควบคุม ดูแลการอนุรักษ์ การใช้ประโยชน์และการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน กำหนดกรอบมาตรการควบคุมไม่ให้กระทำการอันเป็นการบุกรุกทำลายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งการกำหนดโทษทางอาญาและความรับผิดชอบทางแพ่งและมาตรการบังคับทางปกครอง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 มิถุนายน 2550--จบ--