คณะรัฐมนตรีรับทราบการเข้าร่วมโครงการจัดซื้อยารวมในระดับโลกกับมูลนิธิคลินตัน (Clinton Foundation) ของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
กระทรวงสาธารณสุขเสนอว่า
1. มูลนิธิคลินตัน (Clinton Foundation) ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชิญประเทศไทยเข้าร่วมกับมูลนิธิฯ ซึ่งมุ้งเน้นการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาที่จำเป็นได้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคเอดส์ในโครงการจัดซื้อยารวมในระดับโลก ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจัดซื้อสูง ทำให้มีอำนาจต่อรองสูง และทำให้สามารถซื้อยาได้ในราคาไม่แพง โดยโครงการนี้ มูลนิธิฯ จะดำเนินการประสานและเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาเรื่องราคา และเรื่องจัดหายา โดยไม่คิดค่าบริหารจัดการใด ๆ
2. ขณะนี้มูลนิธิฯ กำลังเจรจาเรื่องราคายาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ Lopinavir/Ritonavir (LPV/r) ในรูปแบบเม็ดที่ทนต่อความร้อน และรับประกันว่าราคายาดังกล่าวจะถูกกว่าราคาที่ไทยเคยได้รับการเสนอมาอย่างแน่นอน และยังแจ้งว่าราคายาดังกล่าวจะลดลงอีกในปี 2551 โดยยาดังกล่าวมีประสิทธิผลสูง และจัดอยู่ในสูตรยาในระบบหลักประกันการเข้าถึงยาเอดส์แห่งชาติของไทย และมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีเชื้อดื้อยาและไม่สามารถใช้ยาสูตรพื้นฐานต่อไปได้
3. มูลนิธิฯ จึงเชิญไทยเข้าร่วมโครงการฯ โดยการแจ้งจำนวนยาต้านเชื้อเอชไอวี/เอดส์ที่ไทยต้องการซื้อ เพื่อนำไปรวมกับความต้องการของประเทศอื่น ๆ และนำไปใช้ประกอบการเจรจาต่อรองยารวมระดับโลก ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการนี้มิได้ผูกมัดว่าไทยจะต้องซื้อยาเฉพาะจากโครงการนี้ ไทยสามารถซื้อจากแหล่งอื่นตามที่เห็นสมควรได้
4. กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะทำให้ประชาชนไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ ที่มีคุณภาพดีในราคาถูก และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ความยอมรับของอดีตประธานาธิบดีคลินตันต่อไทยด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤษภาคม 2550--จบ--
กระทรวงสาธารณสุขเสนอว่า
1. มูลนิธิคลินตัน (Clinton Foundation) ได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เชิญประเทศไทยเข้าร่วมกับมูลนิธิฯ ซึ่งมุ้งเน้นการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาที่จำเป็นได้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับโรคเอดส์ในโครงการจัดซื้อยารวมในระดับโลก ซึ่งจะทำให้ปริมาณการจัดซื้อสูง ทำให้มีอำนาจต่อรองสูง และทำให้สามารถซื้อยาได้ในราคาไม่แพง โดยโครงการนี้ มูลนิธิฯ จะดำเนินการประสานและเป็นตัวกลางในการจัดการเจรจาเรื่องราคา และเรื่องจัดหายา โดยไม่คิดค่าบริหารจัดการใด ๆ
2. ขณะนี้มูลนิธิฯ กำลังเจรจาเรื่องราคายาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ Lopinavir/Ritonavir (LPV/r) ในรูปแบบเม็ดที่ทนต่อความร้อน และรับประกันว่าราคายาดังกล่าวจะถูกกว่าราคาที่ไทยเคยได้รับการเสนอมาอย่างแน่นอน และยังแจ้งว่าราคายาดังกล่าวจะลดลงอีกในปี 2551 โดยยาดังกล่าวมีประสิทธิผลสูง และจัดอยู่ในสูตรยาในระบบหลักประกันการเข้าถึงยาเอดส์แห่งชาติของไทย และมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่มีเชื้อดื้อยาและไม่สามารถใช้ยาสูตรพื้นฐานต่อไปได้
3. มูลนิธิฯ จึงเชิญไทยเข้าร่วมโครงการฯ โดยการแจ้งจำนวนยาต้านเชื้อเอชไอวี/เอดส์ที่ไทยต้องการซื้อ เพื่อนำไปรวมกับความต้องการของประเทศอื่น ๆ และนำไปใช้ประกอบการเจรจาต่อรองยารวมระดับโลก ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการนี้มิได้ผูกมัดว่าไทยจะต้องซื้อยาเฉพาะจากโครงการนี้ ไทยสามารถซื้อจากแหล่งอื่นตามที่เห็นสมควรได้
4. กระทรวงสาธารณสุขเห็นว่า การเข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะทำให้ประชาชนไทยมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอชไอวี/เอดส์ ที่มีคุณภาพดีในราคาถูก และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ความยอมรับของอดีตประธานาธิบดีคลินตันต่อไทยด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 พฤษภาคม 2550--จบ--