เรื่อง หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
และคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (กยต.) เพิ่มเติม
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรับทราบคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (กยต.) เพิ่มเติม ตามมติคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2550 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2550 มีมติเห็นชอบ ดังนี้
1. การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548
(1) การให้ทุนการศึกษาและเงินยังชีพรายเดือนแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อให้ผู้ประสบเหตุที่เป็นเด็กก่อนวัยเรียน/นักเรียน/นักศึกษา และเด็กที่ผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส และทุพพลภาพ ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างยุติธรรม ดังนี้
1) หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ มีดังนี้ “สำรวจจำนวนเด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษา ที่ประสบเหตุจนเป็นผลให้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพ รวมทั้ง เด็กกำพร้าหรือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เนื่องจากบิดา มารดา หรือผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส ทุพพลภาพในระยะยาว โดยให้ความช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องโดยจ่ายเป็นรายปี
- เด็กเล็กก่อนวัยเรียน/การศึกษานอกโรงเรียน 5,000 บาท/คน/ปี
- อนุบาล/ประถมศึกษา 6,000 บาท/คน/ปี
- มัธยมศึกษา 10,000 บาท/คน/ปี
- อุดมศึกษา 20,000 บาท/คน/ปี”
2) ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ ดังนี้ “ให้เงินฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพ 200,000 บาท/คน และจ่ายเงินยังชีพรายเดือนให้แก่เด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษา ที่บิดา มารดา หรือผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส และทุพพลภาพ หรือเด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษาที่ประสบเหตุจนเป็นผลให้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือตามศักยภาพของเด็ก ทั้งนี้ อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ (ระดับอนุบาล/ประถมศึกษา เดือนละ 1,000 บาท/คน ระดับเด็กเล็กก่อนวัยเรียน/การศึกษานอกโรงเรียน/มัธยมศึกษา เดือนละ 1,500 บาท/คน ระดับอุดมศึกษา/ปวส. เดือนละ 2,500 บาท/คน)”
(2) การช่วยเหลือกรณีเด็กที่บิดาและมารดาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เพื่อให้เด็กที่กำพร้าทั้งบิดาและมารดา ประสบความเดือดร้อนมากกว่าเด็กที่กำพร้าเพียงบิดาหรือมารดา เนื่องจากต้องขาดผู้อุปการะดูแล และอาจเป็นภาระแก่ญาติพี่น้องคนอื่น ๆ ซึ่งมีภาระในครอบครัวของตนอยู่แล้ว โดยเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ ดังนี้ “ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่อุปการะ (กรณีเด็กที่ทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ) แบบครอบครัวอุปถัมภ์ โดยให้การช่วยเหลือเป็นเงินอุดหนุนรายเดือนในอัตรา 2,000 บาท/คน กรณีอุปการะเกิน 2 คนขึ้นไป ให้อุดหนุนในลักษณะเหมาจ่าย 5,000 บาท/เดือน”
2. การแต่งตั้งคณะกรรมการใน กยต. เพิ่มเติม
เนื่องจากการดำเนินการของ กยต. ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต้องดำเนินการควบคู่กันไปในทุกด้านและครอบคลุมทุกภาคส่วน จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะการเยียวยาด้านจิตใจ และการประชาสัมพันธ์ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งอธิบดีกรมสุขภาพจิตและอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นกรรมการใน กยต. เพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 สิงหาคม 2550--จบ--
และคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (กยต.) เพิ่มเติม
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรับทราบคำสั่งแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ (กยต.) เพิ่มเติม ตามมติคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2550 ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
คณะกรรมการนโยบายและอำนวยการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) ได้มีการประชุมครั้งที่ 2/2550 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2550 มีมติเห็นชอบ ดังนี้
1. การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2548
(1) การให้ทุนการศึกษาและเงินยังชีพรายเดือนแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อให้ผู้ประสบเหตุที่เป็นเด็กก่อนวัยเรียน/นักเรียน/นักศึกษา และเด็กที่ผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส และทุพพลภาพ ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐอย่างยุติธรรม ดังนี้
1) หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ มีดังนี้ “สำรวจจำนวนเด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษา ที่ประสบเหตุจนเป็นผลให้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพ รวมทั้ง เด็กกำพร้าหรือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เนื่องจากบิดา มารดา หรือผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส ทุพพลภาพในระยะยาว โดยให้ความช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องโดยจ่ายเป็นรายปี
- เด็กเล็กก่อนวัยเรียน/การศึกษานอกโรงเรียน 5,000 บาท/คน/ปี
- อนุบาล/ประถมศึกษา 6,000 บาท/คน/ปี
- มัธยมศึกษา 10,000 บาท/คน/ปี
- อุดมศึกษา 20,000 บาท/คน/ปี”
2) ตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ ดังนี้ “ให้เงินฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพ 200,000 บาท/คน และจ่ายเงินยังชีพรายเดือนให้แก่เด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษา ที่บิดา มารดา หรือผู้อุปการะเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส และทุพพลภาพ หรือเด็กก่อนวัยเรียน นักเรียน นักศึกษาที่ประสบเหตุจนเป็นผลให้บาดเจ็บสาหัส หรือทุพพลภาพจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือตามศักยภาพของเด็ก ทั้งนี้ อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ (ระดับอนุบาล/ประถมศึกษา เดือนละ 1,000 บาท/คน ระดับเด็กเล็กก่อนวัยเรียน/การศึกษานอกโรงเรียน/มัธยมศึกษา เดือนละ 1,500 บาท/คน ระดับอุดมศึกษา/ปวส. เดือนละ 2,500 บาท/คน)”
(2) การช่วยเหลือกรณีเด็กที่บิดาและมารดาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ เพื่อให้เด็กที่กำพร้าทั้งบิดาและมารดา ประสบความเดือดร้อนมากกว่าเด็กที่กำพร้าเพียงบิดาหรือมารดา เนื่องจากต้องขาดผู้อุปการะดูแล และอาจเป็นภาระแก่ญาติพี่น้องคนอื่น ๆ ซึ่งมีภาระในครอบครัวของตนอยู่แล้ว โดยเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาฯ ดังนี้ “ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวที่อุปการะ (กรณีเด็กที่ทั้งบิดาและมารดาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ) แบบครอบครัวอุปถัมภ์ โดยให้การช่วยเหลือเป็นเงินอุดหนุนรายเดือนในอัตรา 2,000 บาท/คน กรณีอุปการะเกิน 2 คนขึ้นไป ให้อุดหนุนในลักษณะเหมาจ่าย 5,000 บาท/เดือน”
2. การแต่งตั้งคณะกรรมการใน กยต. เพิ่มเติม
เนื่องจากการดำเนินการของ กยต. ในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต้องดำเนินการควบคู่กันไปในทุกด้านและครอบคลุมทุกภาคส่วน จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยเฉพาะการเยียวยาด้านจิตใจ และการประชาสัมพันธ์ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งอธิบดีกรมสุขภาพจิตและอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นกรรมการใน กยต. เพิ่มเติม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 1 สิงหาคม 2550--จบ--