เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรีขอใช้สิทธิประกันรายได้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 30, 2010 14:16 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ความช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรีและจังหวัดอื่น (ถ้ามี) ที่เพาะปลูกข้าวโพดในเดือนเมษายน 2552 ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผ่านการประชาคมภายในเดือนกันยายน 2552 ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 โดยให้ใช้สิทธิรับเงินชดเชยส่วนต่างราคาตามประกาศคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 กก.ละ 0.58 บาท (ช่วงที่มีราคาส่วนต่างช่วงสุดท้าย) เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากมาตรการประกันรายได้ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เสนอ

1. เรื่องเดิม

1.1 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552 เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 โดยให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนเดือนกรกฎาคม — กันยายน 2552 ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. เดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2552 และให้เกษตรกรใช้สิทธิได้หลังจากวันทำสัญญา 15 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน นับถัดจากวันทำสัญญาและต้องไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553

1.2 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 ให้ขยายระยะเวลาการทำสัญญาประกันรายได้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2552

1.3 มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 เห็นชอบกรอบแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กรณีที่ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. หลังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 อนุโลมให้สามารถใช้สิทธิรับเงินชดเชยส่วนต่างราคาตามประกาศคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นช่วงที่มีส่วนต่างราคาช่วงสุดท้าย

2. ข้อร้องเรียน

นางสาวผ่องศรี ธาราภูมิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ขอให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดลพบุรี จำนวน 456 ราย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผ่านการประชาคมและทำสัญญากับ ธ.ก.ส.แล้ว แต่ไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้ เนื่องจากเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวปลูกข้าวโพดในช่วงเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน ในขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดแนวทางปฏิบัติให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม — 30 กันยายน 2552 เป็นผู้มีสิทธิในการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 จึงขอความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเกษตรกรให้ใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการได้ โดยขอให้ 1) กรมส่งเสริมการเกษตรทบทวนกำหนดระยะเวลาการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูปลูกที่ผ่านมาเป็นระหว่างวันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน 2552 2) ช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับเงินชดเชยส่วนต่างโดยให้ใช้สิทธิย้อนหลังไปถึงช่วงสุดท้ายที่เกณฑ์กลางอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน (อ้างถึง 4)

3. การพิจารณาข้อร้องเรียน

3.1 รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) ประธานกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงการใช้สิทธิของเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 (นายโอฬาร พิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน) ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว สรุปได้ ดังนี้

3.1.1 กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม — 30 กันยายน 2552 เป็นผู้มีสิทธิในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2552/53 ซึ่งการกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ดำเนินการตามประกาศกำหนดฤดูกาลปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเป็นผู้กำหนด

3.1.2 ในจังหวัดลพบุรีมีเกษตรกรจำนวนหนึ่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในเดือนมีนาคมและเมษายนจริงซึ่งเกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผ่านการประชาคมภายในเดือนกันยายน 2552 ตามระยะเวลาการขึ้นทะเบียนที่กำหนด แต่จังหวัดยังไม่ได้ออกใบรับรองให้เกษตรกร เนื่องจากระยะเวลาการปลูกไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด

3.1.3 จังหวัดลพบุรีได้มีหนังสือ ที่ 0009/14040 ลงวันที่ 18 กันยายน 2552 ถึงกรมส่งเสริมการเกษตร ขอให้พิจารณาให้การช่วยเหลือเกษตรกรโดยปรับช่วงเวลาการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม — 30 กันยายน 2552 เป็นระหว่างวันที่ 1 เมษายน — 30 กันยายน 2552

3.1.4 กรมส่งเสริมการเกษตรมีหนังสือที่ กษ 1012/14404 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2552 หารือสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เรื่อง การกำหนดเกณฑ์วันเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้มีหนังสือที่ กษ 1303/228 ลงวันที่ 22 มกราคม 2553 อนุโลมให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรเพาะปลูกในเดือนเมษายน ให้ถือว่าเป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น (ฤดูฝน) ด้วย

3.1.5 กรมส่งเสริมการเกษตรได้มีหนังสือที่ 1012/1487 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 แจ้งให้จังหวัดลพบุรีทราบและออกใบรับรองให้เกษตรกร แต่เนื่องจากการออกใบรับรองให้เกษตรกรล่วงเลยกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดการทำสัญญาตามโครงการ (30 ธ.ค.52) ดังนั้น เกษตรกรแม้จะได้รับใบรับรองและ ธ.ก.ส. ทำสัญญาให้แล้ว แต่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการขอใช้สิทธิรับเงินชดเชยส่วนต่างได้

3.1.6 คณะอนุกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงการใช้สิทธิของเกษตรกรฯ มีความเห็นว่า เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์และระยะเวลาปลูกพืชของทางราชการไม่สอดคล้องกับการผลิตของเกษตรกรในบางพื้นที่ ประกอบกับผลการพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวล่าช้า ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เสียสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้รับจึงเห็นควรให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ในเดือนเมษายน 2552 ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผ่านการประชาคมภายในเดือนกันยายน 2552 ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี2552/53 โดยให้ใช้สิทธิรับเงินชดเชยส่วนต่างราคาตามประกาศคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงวันที่ 1- 15 ธันวาคม 2552 กก.ละ 0.58 บาท (ช่วงที่มีราคาส่วนต่างช่วงสุดท้าย) ซึ่งสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 ที่เห็นชอบให้เกษตรกรที่ทำสัญญากับ ธ.ก.ส. หลังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2552 อนุโลมให้สามารถใช้สิทธิรับเงินชดเชยส่วนต่างราคาในช่วงวันที่ 1-15 ธันวาคม 2552 โดยอนุโลมให้ ธ.ก.ส. ดำเนินการจัดทำสัญญาประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2553

3.2 คณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ประชุมเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2553 พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีข้อร้องเรียนของเกษตรกรจังหวัดลพบุรี มีมติเห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงการใช้สิทธิของเกษตรกรฯ โดยปรับระยะเวลาดำเนินการทำสัญญา ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 เพื่อให้เกษตรกรอื่นที่เสียสิทธิการขอรับเงินชดเชยส่วนต่างราคาดังเช่นเกษตรกรจังหวัดลพบุรีนี้ ได้มีโอกาสได้รับสิทธิเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เกษตรกรจังหวัดลพบุรี ที่ขอรับเงินชดเชยส่วนต่างมีประมาณ 456 ราย ปริมาณข้าวโพด 4,626.776 ตัน รวมเป็นเงินชดเชยส่วนต่างราคาประมาณ 2.68 ล้านบาท

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 มิถุนายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ