1. การแต่งตั้งข้าราชการ (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอแต่งตั้ง นางจันทร์เพ็ญ ไขว้พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระเบียบราชการส่วนภูมิภาคและความสัมพันธ์กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงาน ก.พ.ร. ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการพัฒนาระบบราชการ (นักพัฒนาระบบราชการทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
2. การแต่งตั้งผู้แทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสและการชำระค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการประจำปีของสำนักเลขาธิการองค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยโดยตำแหน่ง [เพื่อเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์การประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Conseil Permanent de la Francophonie)] และอนุมัติในหลักการให้คณะรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาในการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในครั้งต่อ ๆ ไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ส่วนงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสมทบที่ประเทศไทยต้องชำระในปี 2552 จำนวน 2,154 ยูโร และปี 2553 จำนวน 2,208 ยูโร รวมทั้งในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับจัดสรรแล้ว และในปีต่อ ๆ ไปให้เสนอขอรับจัดสรรจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. รายงานว่า
1. หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (4 มกราคม 2548) กต. ได้แจ้งความประสงค์ในการสมัครเป็นผู้สังเกตการณ์ของประเทศไทยต่อองค์การฯ และที่ประชุมสุดยอดผู้นำ ครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2551 ณ เมืองควีเบค ประเทศแคนาดา ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ให้ประเทศไทยเข้าเป็นผู้สังเกตการณ์
2. ประเทศไทยในฐานะผู้สังเกตการณ์มีพันธกรณี 2 ประการ คือ
2.1 การแต่งตั้งผู้แทนของรัฐบาลเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Conseil Permanent de la Francophonie)
2.2 การชำระค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการประจำปีของสำนักเลขาธิการองค์การฯ
3. การแต่งตั้งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสตามขั้นตอนของ องค์การฯ ประมุขแห่งรัฐหรือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศที่เป็นสมาชิกใหม่รวมทั้งผู้สังเกตการณ์จะมีหนังสือแจ้งเลขาธิการองค์การฯ แต่งตั้งผู้แทนของตนเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีถาวรกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ 3 เดือน โดยจำแนกเป็นคณะกรรมาธิการฝ่ายการเมือง คณะกรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจ และคณะกรรมาธิการฝ่ายความ ร่วมมือ ซึ่งจะประชุมที่สำนักงานใหญ่ขององค์การฯ กรุงปารีส ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติ ประเทศสมาชิกและผู้สังเกตการณ์จะแต่งตั้งเอกอัครราชทูตของตนที่ประจำอยู่ที่สาธารณรัฐฝรั่งเศสเป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุม โดยเมื่อประมุขแห่งรัฐหรือหัวหน้า รัฐบาลมีหนังสือแต่งตั้งผู้แทนแล้ว จะมีพิธีการให้ผู้แทนดังกล่าวยื่นหนังสือแต่งตั้งต่อเลขาธิการองค์การฯ อย่างเป็นทางการด้วย
4. มติของที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การฯ เมื่อเดือนกันยายน 2549 ที่กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย มีข้อกำหนดให้ผู้สังเกตการณ์มีพันธกรณีต้องชำระค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการของสำนักเลขาธิการองค์การฯ โดยอัตราค่าใช้จ่ายสมทบที่สำนักเลขาธิการองค์การฯ เรียกเก็บจากผู้สังเกตการณ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับการกำหนดของที่ประชุมประจำปีของรัฐมนตรีต่างประเทศขององค์การฯ โดยอัตราค่าใช้จ่ายสมทบในส่วนงานธุรการที่ผู้สังเกตการณ์รวมทั้งประเทศไทยจะต้องชำระในปี 2552 เป็นเงินจำนวน 2,154 ยูโร และสำหรับปี 2553 เป็นเงินจำนวน 2,208 ยูโร
3. การเปิดสถานกงสุลและแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอทั้ง 2 ข้อดังนี้
1. เปิดสถานกงสุลประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก
2. แต่งตั้ง นางโจน วิลสัน (Ms. Joan Wilson) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงพอร์ต-ออฟ-สเปน สาธารณรัฐตรินิแดดและโตเบโก
4. การปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ไทยประจำสาธารณรัฐอินเดีย
คณะรัฐมนตรีอนุมัติเปลี่ยนแปลงเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ประจำสาธารณรัฐอินเดีย จำนวน 3 แห่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
1. สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ให้มีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐพิหาร รัฐโอริสสา รัฐเบงกอลตะวันตก รัฐฌารขัณฑ์ รัฐฉัตตีสครห์ และหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์
2. สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ให้มีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐมหาราษฏระ รัฐคุชราต รัฐมัธยประเทศ และรัฐกัว
3. สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน ให้มีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐทมิฬนาฑู รัฐกรณาฏกะ รัฐอานธรประเทศ และรัฐเกรละ
5. แต่งตั้งข้าราชการตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายศิริ เลิศธรรมทวี ผู้อำนวยการสำนัก [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (นิติการ)สูง] สำนักนิติธรรม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาประจำสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2552 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
6. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายชูชาติ อัศวโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมศุลกากร ให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
7. การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมแจ้งรายชื่อผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงวัฒนธรรม คือ นายอภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงวัฒนธรรม
8. การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.)
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแจ้งยืนยันให้ นายศิริชัย เขียนมีสุข รองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปฏิบัติหน้าที่ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไป
9. การแต่งตั้งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) กระทรวงอุตสาหกรรม
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมแจ้งยืนยันให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาของกระทรวงอุตสาหกรรม คือ นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านส่งเสริมอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
10. แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอแต่งตั้ง นายสันติ สาทิพย์พงษ์ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ แทนนายชัชวาล ชาติสุทธิชัย ได้ลาออกจากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2552 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป
11. การแต่งตั้งผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา (สำนักนายกรัฐมนตรี)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอแต่งตั้ง นายอัชพร จารุจินดา รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
12. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงศึกษาธิการ)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอแต่งตั้ง นางสาวณารินี ตะล่อมสิน ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายไชยยศ จิรเมธากร) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2553 เป็นต้นไป
13. การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านประสานกิจการต่างประเทศ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนระดับทรงคุณวุฒิ)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ (ผู้อำนวยการระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ด้านประสานกิจการต่างประเทศ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนระดับทรงคุณวุฒิ) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
14. แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
คณะรัฐมนตรีอนุมัติมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ตามที่กระทรวง อุตสาหกรรมเสนอ ตามลำดับ ดังนี้ 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายจุติ ไกรฤกษ์) 2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายวีระชัย วีระเมธีกุล)
15. แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการคลัง)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายภูวเดช อินทวงศ์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายมั่น พัธโนทัย)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 มิถุนายน 2553--จบ--