มาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 202 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 7, 2010 15:12 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลมาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 202 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนกรกฎาคม 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ สรุปได้ดังนี้

ในเดือนกรกฎาคม 2553 กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายในได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ ด้านราคาและปริมาณของสินค้าและบริการ โดยได้ปรับเปลี่ยนการจัดระดับความสำคัญของสินค้าทั้ง 3 กลุ่มเป็นดังนี้

1. กลุ่ม Sensitive List (SL) สินค้า 10 รายการ ได้แก่ (1) อาหารปรุงสำเร็จ ราคาวัตถุดิบหลักคือเนื้อสัตว์และพืชผักทุกชนิดโดยภาพรวมมีราคาสูงขึ้น (2) น้ำตาลทราย ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับลดลงจากเดือนมกราคม 2553 แต่ราคาน้ำตาลทรายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง (3) น้ำมันเบนซิน (4) น้ำมันดีเซล ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปัญหาหนี้สาธารณะที่เกิดขึ้นในประเทศกรีซได้ลุกลามไปในประเทศสเปนและฮังการี ทำให้ตลาดมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (5) เหล็กเส้น (6) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ (7) เหล็กแผ่น (รีดร้อน รีดเย็น และสแตนเลส) ราคาวัตถุดิบปรับลดลงเนื่องจากความต้องการใช้โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ชะลอตัว และสินค้าคงคลังยังคงอยู่ในระดับที่สูง หลังจากที่ได้สั่งซื้อในช่วงก่อนหน้านี้ (8) ปูนซีเมนต์ ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น (9) เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และ (10) เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม ราคาวัตถุดิบยังคงทรงตัวและมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับเพิ่มขึ้น และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์ รับส่งโทรสาร และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์ รับส่งโทรสาร สืบเนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและส่งผลต่อราคาสินค้า

2. กลุ่ม Priority Watch List (PWL) สินค้า 4 รายการ ได้แก่ (1) นมผง ราคานมผงขาดมันเนย ลดลงจากเดือนก่อนเนื่องจากปริมาณผลผลิตนมมากขึ้น (2) ก๊าซ LPG หุงต้ม รัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาสินค้าถึงเดือนสิงหาคม 2553 (3) สายไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบได้ปรับตัวลดลงเนื่องจากความต้องการใช้ลดลง และ(4) ปุ๋ยเคมี ราคาลดลงเนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนและแห้งแล้งทำให้ปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลดลง และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการซ่อมรถ

3. กลุ่ม Watch List (WL) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นปกติยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า จะมีปัญหาทั้งด้านราคาและปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งจะทำการติดตาม ตามปกติ จำนวน 188 รายการ และ บริการ 18 รายการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 กรกฎาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ