เรื่อง มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
ทางการเมืองภายในประเทศ
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ ดังนี้
1. มาตรการช่วยเหลือด้านสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดย่อม โดยให้ผ่อนปรนคุณสมบัติผู้ขอกู้ให้ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียนในนามนิติบุคคล
- วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ระยะเวลาการกู้ยืมสูงสุด 8 ปี ระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้น (Grace Period) 2 ปี
- อัตราดอกเบี้ย ธพว. เรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ร้อยละ MLR ลบ 3 ต่อปี เป็นเวลา 2 ปี และตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MLR ต่อปี โดยรัฐบาลให้เงินอุดหนุนเป็นค่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้กับ ธพว. ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปีเป็นเวลา 2 ปี
- ค่าธรรมเนียม ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ (Front End Fee, Prepayment Fee, การจัดทำนิติกรรม)
- อนุมัติให้ ธพว. ดำเนินการแยกบัญชีการดำเนินงานตามโครงการซึ่งเป็นนโยบายของรัฐ (Public Service Account : PSA) ออกจากการดำเนินงานปกติของธนาคารเพื่อขอรับการชดเชยความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากรัฐบาล
- ให้ ธพว. กำหนดวิธีการที่อำนวยความสะดวก เพื่อให้การอนุมัติเงินกู้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อผ่อนคลายปัญหาสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยว
- งบประมาณเพื่อเป็นเงินอุดหนุนเป็นค่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยให้กับ ธพว. ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี ของวงเงินสินเชื่อที่ปล่อยจริง แต่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เป็นเวลา 2 ปี รวมเป็นเงินประมาณไม่เกิน 200 ล้านบาท ให้แก่ กก. ดังนี้
(1) งบกลาง รายจ่ายสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 วงเงิน 25 ล้านบาท เพื่อจัดสรรอุดหนุนให้ ธพว. เป็นเงินชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 (เดือนกรกฎาคม — กันยายน 2553)
(2) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 วงเงิน 100 ล้านบาท เพื่อจัดสรรอุดหนุนให้ ธพว. เป็นเงินชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2554
(3) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 วงเงิน 75 ล้านบาท เพื่อจัดสรรอุดหนุนให้ ธพว. เป็นเงินชดเชยอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 (เดือนตุลาคม 2554 — มิถุนายน 2555)
2. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปพิจารณา ทบทวนในรายละเอียดให้ชัดเจนแล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
3. สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อในส่วนของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดย่อมนั้น ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปหารือร่วมกับกระทรวงการคลังและธนาคารออมสิน เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กรกฎาคม 2553--จบ--