ขอต่ออายุเงินกู้ระยะสั้น

คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE ในวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2553 ภายใต้เงื่อนไขเดิมประกอบด้วย กู้ เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ TRUST RECEIPT (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (CALL LOAN) โดยให้พิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจและ/หรือธนาคารพาณิชย์อื่นตามที่ธนาคารแต่ละแห่งเสนอ ในรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

1. กระทรวงพลังงาน (พน.) รายงานว่า กฟผ.ได้เสนอเรื่องขอต่ออายุเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE ในวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ กฟผ.แล้ว ให้ พน.พิจารณาให้ความเห็นชอบและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 43 (4) ที่กำหนดให้ กฟผ.ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการกู้ยืมเงินเกิน 40 ล้านบาท

2. กฟผ.ได้แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อ พน.ว่าเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วตามมติคณะรัฐมนตรี (9 กรกฎาคม 2552) จะหมดอายุในวันที่ 9 กรกฎาคม 2553 แต่ กฟผ.ยังคงมีความจำเป็นจะต้องใช้ วงเงินกู้จำนวนดังกล่าวเพื่อรองรับการบริหารสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนที่สูงมาก กล่าวคือในปี 2553 กฟผ.จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานประมาณ 354,994 ล้านบาท โดยมีรายการจ่ายที่สำคัญและเงินจำนวนมาก เช่น การจ่ายค่าก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าต้องจ่ายภายในวันที่ 30 ของทุกเดือน ในขณะที่รายรับค่าขายกระแสไฟฟ้า กฟผ.จะได้รับในต้นเดือนถัดไป และ กฟผ.เป็นหน่วยงานใหญ่ที่มีภาระที่ต้องจ่ายเงินเร่งด่วนสำหรับธุรกิจโดยปกติของ กฟผ. และตามนโยบายของรัฐบาลอยู่เสมอ ดังนั้น การมีวงเงินกู้ระยะสั้นอย่างเพียงพอจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้รองรับการแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องและเพื่อการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ

3. คณะกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2553 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ได้มีมติอนุมัติให้ต่ออายุสัญญาวงเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE วงเงิน 10,000 ล้านบาท เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ วันที่ 9 กรกฎาคม 2553

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กรกฎาคม 2553--จบ--