เรื่อง การจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษา
ที่ไม่มีเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกับมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในการประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2553 เกี่ยวกับแนวทางการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สำหรับส่วนราชการ จังหวัด และสถาบันอุดมศึกษาที่ไม่มีเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หรือมีอยู่ไม่เพียงพอ ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร.เสนอ โดยให้ใช้เงินงบประมาณ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายการปรับเงินค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ ที่คงเหลือจากการจัดสรรเงินรางวัลและเงินเพิ่มพิเศษสำหรับผู้บริหาร ก่อนปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ซึ่งมีการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและขยายเวลาการเบิกจ่ายเงินไว้แล้ว จำนวน 1,073,629,255.03 บาท สำหรับการจัดสรรเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้กับส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษา ที่ไม่มีเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หรือมีอยู่ไม่เพียงพอ และเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ได้รวดเร็ว เห็นควร
1. ให้ส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษาที่มีเงินเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 สามารถโอนเปลี่ยนแปลงรายการเงินงบประมาณเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ไปตั้งจ่ายในรายการเงินรางวัลสำหรับ ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติของหน่วยงานเพื่อใช้สำหรับการจัดสรรเป็นเงินรางวัล ไม่ต้องขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ เป็นการผ่อนผันวิธีปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
2. ให้กระทรวงการคลังอนุมัติการกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีและการขยายเวลาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณเหลือจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพื่อนำมาจัดสรรเป็นเงินรางวัลประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 และวันที่ 11 พฤษภาคม 2553
3. ให้ส่วนราชการ จังหวัดและสถาบันอุดมศึกษาปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.ร.กำหนดและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2553 โดยควรให้ความสำคัญกับผู้ปฏิบัติ และไม่ควรนำเงินรางวัลที่ได้รับจัดสรรไปหารเฉลี่ยให้เท่ากันทุกคน แต่ต้องมีการประเมินผลการปฏิบัติราชการและควรให้กับผู้ปฏิบัติที่มีความร่วมมือในการสร้างผลงานให้ส่วนราชการฯ รวมทั้งผู้ที่มีความทุ่มเทและมีผลงานให้ส่วนราชการฯ บรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติราชการและตามคำรับรองการปฏิบัติราชการประจำปี
ทั้งนี้ บุคลากรภาครัฐระดับผู้บริหารไม่ได้รับสิทธิในการจัดสรรเงินรางวัลดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กรกฎาคม 2553--จบ--