เรื่อง การขอความเห็นชอบและการลงนามในร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบ ชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบ
ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอทั้ง 2 ข้อดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบ ชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบ ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดของร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบฯ ที่จะไม่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ให้กระทรวงกลาโหมโดยกองทัพไทยพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
3. ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย ในร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย ตามข้อ 1.
สาระสำคัญของเรื่อง
กห. รายงานว่า
1. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพออสเตรเลีย มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกองบัญชาการกองทัพไทยอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 18 — 20 กรกฎาคม 2553 และมีความประสงค์ที่จะมอบชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบ จำนวน 8 ชุด ให้กองทัพไทย เพื่อใช้ในภารกิจต่าง ๆ ในลักษณะการให้เปล่า ทั้งนี้ ได้จัดทำร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบ ชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อที่จะให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทยและผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพออสเตรเลียลงนามร่วมกันในวันที่ส่งมอบซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553
2. สำหรับในประเด็นว่า ร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบ ชุดป้องกันวัตถุระเบิดพร้อมอุปกรณ์ประกอบ ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลออสเตรเลีย เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนการดำเนินการให้มีผลผูกพัน (ก่อนการลงนาม) และมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องขอความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่นั้น กระทรวงกลาโหมมีความเห็นว่า ร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบฯ มีลักษณะเป็นความตกลงระหว่างประเทศที่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญฯ จึงต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการให้มีผลผูกพัน (ก่อนการลงนาม) สำหรับในประเด็นว่า ร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบฯ เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ หรือไม่นั้น กระทรวงกลาโหมมีความเห็นว่าร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบฯ มิได้มีข้อความส่วนใดที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทยหรือพื้นที่นอกราชอาณาจักร ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุนหรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด และกระทรวงกลาโหมสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้เป็นไปตามหนังสือสัญญา ดังนั้น ร่างข้อตกลงการรับมอบ-ส่งมอบฯ ไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องรับความเห็นของรัฐสภา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 กรกฎาคม 2553--จบ--