มติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ พ.ศ. 2553-2562 ตามมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวง มหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) สวรส. สำนักงานสถิติแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กโทรนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ รับไปดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) รายงานว่า ในการประชุม คสช. ครั้งที่2/2553 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 ได้พิจารณามติของสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วย “การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ตามบทบัญญัติมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 โดยมีความเป็นมาและสรุปสาระ ดังนี้

ความเป็นมา

สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพภายใต้สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับหน่วยงานภาคีด้านระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพได้จัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางการพัฒนาและจัดการระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพใน 10 ปีข้างหน้า ให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 และเป็นไปตามกรอบแนวทางที่กำหนดในธรรมนูญว่าด้วยระบบสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2552

สถานการณ์ระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ

การบริหารจัดการระบบข้อมูลสุขภาพในภาพรวมมีความพยายามในการพัฒนาระบบข้อมูลผ่านกลไกความร่วมมือต่าง ๆ อาทิเช่น แผนงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ จากการสนับสนุนโดย สสส. ร่วมกับ สวรส. การพัฒนามาตรฐานข้อมูลบริการสาธารณสุขเพื่อการเบิกจ่าย โดยการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ดำเนินงานโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กโทรนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) รวมทั้งแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งที่สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบจัดการฐานข้อมูลสุขภาพของ สธ. สาระสำคัญของร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ ปี 2553-2562 มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ของแผน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดตั้งกลไกสนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพของประเทศที่ต่อเนื่องและบูรณาการและเป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

2. เป้าประสงค์ของแผน

2.1 พัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลให้ประชาชนมีและเข้าถึงข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลในการดูแลและพัฒนาสุขภาพของตนเอง

2.2 พัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพระดับชุมชนให้ชุมชนมีและเข้าถึงข้อมูลสุขภาพในการสร้างเสริมสุขภาพของคนในชุมชน

2.3 พัฒนาระบบข้อมูลสุขภาพระดับประเทศให้มีข้อมูลสุขภาพในการพัฒนาระบบสุขภาพ โดย

• มีการบูรณาการระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ
• มีกลไกสนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูลที่เพียงพอและเหมาะสม
• มีการพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลสุขภาพที่มีคุณภาพ ครอบคลุม ต่อเนื่องและทันสมัย
• มีการพัฒนาระบบการจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองต่อการใช้ประโยชน์ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่
• มีการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่ผลิตข้อมูล ให้สามารถวิเคราะห์ และใช้ข้อมูลที่ตนเองผลิต เพื่อเพิ่มความตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูล
• มีการพัฒนาระบบที่เอื้อและส่งเสริมการจัดเก็บและการใช้ประโยชน์จากข้อมูลในระดับต่าง ๆ โดยการพัฒนาช่องทางการสื่อสารทั้งผู้ให้และผู้รับ และพัฒนาข่าวสารให้เหมาะสมต่อกลุ่มเป้าหมาย

3. ยุทธศาสตร์ของแผน ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ย่อย คือ

3.1 ยุทธศาสตร์การพัฒนากลไกสนับสนุนด้านระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ

3.2 ยุทธศาสตร์การบูรณาการและพัฒนาระบบข้อมูลที่เหมาะสมและตอบสนองต่อการใช้

3.3 ยุทธศาสตร์การกำหนดมาตรฐานด้านข้อมูลและพัฒนาคุณภาพของข้อมูล

3.4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบจัดการและการเชื่อมโยงข้อมูล

3.5 ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบและกลไก เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ สื่อสารเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร

โดยมีการกำหนดเป้าหมายในระยะ 5 ปี และระยะ 10 ปี ของแผนไว้อย่างชัดเจน

4. มติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็น ว่าด้วย “การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ”

กระบวนการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติอยู่บนฐานการทำงานทางวิชาการ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังการยกร่างแผนยุทธศาสตร์ฯ ร่างแรก ได้มีการประชุมรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำความเห็นมาปรับปรุงพัฒนาเป็นร่างฯ ที่สอง และได้นำร่างฯ ที่ปรับปรุงแล้วส่งให้กับภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวน 75 แห่ง เพื่อสอบถามความเห็นในการปรับแก้ เป็นร่างฯ ที่สาม สำหรับนำมาใช้พิจารณาในเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความเห็นโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ผู้แทนจากหน่วยราชการส่วนกลางและภูมิภาค ผู้แทนจากสถาบันทางวิชาการ/วิชาชีพ และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม ชุมชนและประชาชน พิจารณาให้ความเห็น เพื่อปรับให้ร่างฯ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเป็นร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดตั้งกลไกสนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพของประเทศที่ต่อเนื่องและบูรณาการ และเป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป และเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ได้นำร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติเข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติ ดังนี้

4.1 รับรองแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ พ.ศ. 2553-2562

4.2 ขอให้ คสช.

4.2.1 นำเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ พ.ศ. 2553-2562 ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบและมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการตามยุทธศาสตร์

4.2.2 แต่งตั้งคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ เพื่อดูแลและบริหารแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพ พ.ศ. 2553-2562 โดยให้ สธ. และสำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพร่วมกันทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการ

4.2.3 มอบหมายให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติต่อการประชุมวิชาการข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติ ทุก 2 ปี

4.2.4 ขอให้ สธ.เป็นหน่วยงานหลักในการระดมทรัพยากรในการดำเนินงาน โดยระดมทั้งจาก สธ. เองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารสุขภาพแห่งชาติและฝ่ายเลขานุการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 กรกฎาคม 2553--จบ--