คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณ งบกลาง รายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็น ในวงเงินจำนวน 96,400,000 บาท สำหรับดำเนินการโครงการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอ
ทั้งนี้ ตามที่ได้มีเหตุการณ์ลอบทำร้ายชีวิตพระสงฆ์ และทำลายทรัพย์สินภายในวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการปฏิบัติศาสนกิจของคณะสงฆ์ รวมถึงวิถีการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชน ใน 3 จังหวัดภาคใต้ จนกระทั่งคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์เสนอให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขและสนองตอบต่อความต้องการในอันที่จะสร้างความเข้มแข็งและปลอดภัยต่อวัด พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนยิ่งขึ้น โดยในเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปประสานหารือกับเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ใน 3 จังหวัด เพื่อวางแผนหาทางแก้ไขเยียวยา และได้มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า สมควรที่จะให้มีโครงการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงอันเป็นการสนองตอบต่อความต้องการของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแยกเป็นแผนงานย่อยคือ
1. แผนงาน “บ้านรักษ์วัด” เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนรอบวัด และให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ดังกล่าวได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ช่วยงานคณะสงฆ์และทำหน้าที่เฝ้าระวังรักษาดูแลความปลอดภัย มีการฝึกอบรมให้อาสาสมัครดังกล่าวมีความรู้และทักษะในการรักษาความปลอดภัยแก่ตนเองและวัด โดยจัดให้มีอาสาหมุนเวียนภายในแต่ละวัด ประมาณ 10 คน (สลับทำหน้าที่วันละ 3 คน) โดยรัฐจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายตอบแทนเป็นค่าอาหารวันละ 500 บาทต่อวัด รวมพื้นที่ 3 จังหวัด 230 วัด เป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,450,000 บาท หรือปีละ 41,400,000 บาท
2. แผนงานการจัดหาเครื่องมือสื่อสารและติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณเตือนภัย เพื่อติดตั้งภายในวัดสำหรับการประสานติดต่อกับหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ในกรณีฉุกเฉินได้ โดยประมาณการค่าใช้จ่ายวัดละ 25,000 บาท คิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 230 วัด จำนวน 5,750,000 บาท
3. แผนงานการสนับสนุนงบประมาณให้แก่วัดต่าง ๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะ ปรับปรุงอาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อมุ่งรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงต่อวัดที่เหมาะสมและจำเป็น รวม 197 วัด คือ จังหวัดยะลา 46 วัด จังหวัดปัตตานี 67 วัด จังหวัดนราธิวาส 84 วัด โดยได้กำหนดพื้นฐานความจำเป็นที่สำคัญ และเร่งด่วนของวัด เพื่อความปลอดภัยและมั่นคง คือ การจัดทำรั้วป้องกัน และการเสริมสร้างกุฏิให้มีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย ซึ่งได้ประมาณการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายให้การสนับสนุนวัดละ 250,000 บาท รวม 197 วัด เป็นเงิน 49,250,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการทั้งโครงการ เป็นเงิน 96,400,000 บาท ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า โครงการดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้การอุปถัมภ์คุ้มครองความปลอดภัย และการดำเนินกิจกรรมของคณะสงฆ์ โดยจักได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานร่วมกับวัด และคณะสงฆ์ อันจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ตลอดจนเป็นผลการดำเนินการทางจิตวิทยาต่อพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--
ทั้งนี้ ตามที่ได้มีเหตุการณ์ลอบทำร้ายชีวิตพระสงฆ์ และทำลายทรัพย์สินภายในวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และการปฏิบัติศาสนกิจของคณะสงฆ์ รวมถึงวิถีการดำรงชีวิตของพุทธศาสนิกชน ใน 3 จังหวัดภาคใต้ จนกระทั่งคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานี ได้ออกแถลงการณ์เสนอให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขและสนองตอบต่อความต้องการในอันที่จะสร้างความเข้มแข็งและปลอดภัยต่อวัด พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนยิ่งขึ้น โดยในเรื่องนี้ รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปประสานหารือกับเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ใน 3 จังหวัด เพื่อวางแผนหาทางแก้ไขเยียวยา และได้มีความเห็นพ้องร่วมกันว่า สมควรที่จะให้มีโครงการเพื่อแก้ไขและปรับปรุงอันเป็นการสนองตอบต่อความต้องการของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแยกเป็นแผนงานย่อยคือ
1. แผนงาน “บ้านรักษ์วัด” เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนรอบวัด และให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ดังกล่าวได้มีส่วนร่วมในการเข้ามาเป็นอาสาสมัคร ช่วยงานคณะสงฆ์และทำหน้าที่เฝ้าระวังรักษาดูแลความปลอดภัย มีการฝึกอบรมให้อาสาสมัครดังกล่าวมีความรู้และทักษะในการรักษาความปลอดภัยแก่ตนเองและวัด โดยจัดให้มีอาสาหมุนเวียนภายในแต่ละวัด ประมาณ 10 คน (สลับทำหน้าที่วันละ 3 คน) โดยรัฐจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายตอบแทนเป็นค่าอาหารวันละ 500 บาทต่อวัด รวมพื้นที่ 3 จังหวัด 230 วัด เป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ 3,450,000 บาท หรือปีละ 41,400,000 บาท
2. แผนงานการจัดหาเครื่องมือสื่อสารและติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณเตือนภัย เพื่อติดตั้งภายในวัดสำหรับการประสานติดต่อกับหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ ในกรณีฉุกเฉินได้ โดยประมาณการค่าใช้จ่ายวัดละ 25,000 บาท คิดเป็นงบประมาณทั้งสิ้น 230 วัด จำนวน 5,750,000 บาท
3. แผนงานการสนับสนุนงบประมาณให้แก่วัดต่าง ๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบูรณะ ปรับปรุงอาคาร สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อมุ่งรักษาความปลอดภัย และความมั่นคงต่อวัดที่เหมาะสมและจำเป็น รวม 197 วัด คือ จังหวัดยะลา 46 วัด จังหวัดปัตตานี 67 วัด จังหวัดนราธิวาส 84 วัด โดยได้กำหนดพื้นฐานความจำเป็นที่สำคัญ และเร่งด่วนของวัด เพื่อความปลอดภัยและมั่นคง คือ การจัดทำรั้วป้องกัน และการเสริมสร้างกุฏิให้มีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย ซึ่งได้ประมาณการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายให้การสนับสนุนวัดละ 250,000 บาท รวม 197 วัด เป็นเงิน 49,250,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการทั้งโครงการ เป็นเงิน 96,400,000 บาท ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า โครงการดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมสนับสนุนให้การอุปถัมภ์คุ้มครองความปลอดภัย และการดำเนินกิจกรรมของคณะสงฆ์ โดยจักได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานร่วมกับวัด และคณะสงฆ์ อันจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ตลอดจนเป็นผลการดำเนินการทางจิตวิทยาต่อพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548--จบ--