ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว พ.ศ. 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 29, 2010 14:51 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว พ.ศ. 2553 ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ

ข้อเท็จจริง

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว พ.ศ. 2553 โดยส่งแบบสอบถามถึงผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว จำนวนทั้งสิ้น 638 ราย ระหว่างเดือนมีนาคม — พฤษภาคม 2553 ได้รับแบบกลับคืนมา 245 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 38.4 และนำเสนอผลการสำรวจในภาพรวมระดับประเทศในรูปของร้อยละ ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ได้สะท้อนข้อคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวฯ ต่อภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้นำผลการสำรวจไปใช้เป็นแนวทางในการติดตามนโยบายประเมินผล และปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำผลการสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

1. ประเภทของธุรกิจการท่องเที่ยว

สถานประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงแรม/รีสอร์ท/โฮมสเตย์ ร้อยละ 53.9 รองลงมาเป็น ธุรกิจนำเที่ยว/มัคคุเทศก์ ร้อยละ 24.1 ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ร้อยละ 15.1 และธุรกิจท่องเที่ยวอื่นๆ (เช่น เดินป่า ล่องแก่ง ดูนก) ร้อยละ 6.9

2. ลักษณะของกิจการ

สถานประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ส่วนใหญ่มีลักษณะของกิจการเป็นบริษัทจำกัด บริษัทจำกัด (มหาชน) ร้อยละ 55.9 รองลงมาเป็น กิจการท่องเที่ยวส่วนบุคคล ห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่เป็นนิติบุคคล ร้อยละ 18.0 และห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด ร้อยละ 11.4 ขณะที่กิจการท่องเที่ยวอื่น ๆ (เช่น วิสาหกิจชุมชน กลุ่มชุมชน) มีร้อยละ 14.7

3. สถานการณ์การท่องเที่ยวปี 2553 เทียบกับปี 2552

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ร้อยละ 41.2 เห็นว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมปี 2553 ดีขึ้น (เมื่อเทียบกับสถานการณ์การท่องเที่ยว ปี 2552 ในช่วงเวลาเดียวกัน) เหมือนเดิม ร้อยละ 26.1 และแย่ลง ร้อยละ 32.7 (เนื่องจากเดือน มี.ค. — เม.ย. 53 มีผู้ประกอบการส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 84.1 แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ท่องเที่ยวฯ โดยระบุว่า สถานการณ์ดีขึ้น ร้อยละ 45.2 เหมือนเดิม ร้อยละ 26.2 และแย่ลง ร้อยละ 28.6 ดังนั้น ผลที่ได้จึงสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ดี ก่อนที่จะมีเหตุการณ์รุนแรงในเดือน พ.ค. 53)

4. ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ และสาเหตุที่ทำให้ได้รับผลกระทบ

การได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น การเมือง การเงิน โรคระบาด ฯลฯ ของสถานประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ พบว่า ร้อยละ 91.8 ได้รับผลกระทบ และร้อยละ 8.2 ไม่ได้รับผลกระทบ

สำหรับสาเหตุที่ทำให้สถานประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ พบว่า 5 อันดับแรก คือ มาจากความไม่สงบ / ความขัดแย้งภายในประเทศ ร้อยละ 80.8 รองลงมา ปัญหาด้านการเมือง ร้อยละ 68.6 ปัญหาเศรษฐกิจโลก ร้อยละ 53.5 ปัญหาโรคระบาด เช่น ไข้หวัด 2009 ร้อยละ 40.0 และราคาน้ำมันแพง ร้อยละ 35.5

5. ความต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ระบุเรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว 5 อันดับแรก คือ ร้อยละ 83.7 ต้องการให้รัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รองลงมา ร้อยละ 79.2 ต้องการให้ประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์ด้านท่องเที่ยวอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ร้อยละ 62.4 ต้องการให้ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ร้อยละ 55.9 ต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และร้อยละ 52.2 ต้องการให้รักษาความสะอาดแหล่งท่องเที่ยว

6. ความพึงพอใจต่อมาตรการธุรกิจการท่องเที่ยวของภาครัฐ

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ระบุว่า พึงพอใจต่อมาตรการต่างๆ ของภาครัฐเกินกว่าร้อยละ 80 โดยมีมาตรการที่พึงพอใจกว่าร้อยละ 90 คือ มาตรการปรับแผนอบรม จัดประชุมสัมมนา โดยให้ส่วนราชการจัดประชุมสัมมนาในประเทศให้มากขึ้น แทนการจัดประชุมสัมมนาในต่างประเทศ (ร้อยละ 91.0) และมาตรการประกันภัยคุ้มครองชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในกรณีเกิดจลาจล (ร้อยละ 90.2)

7. การทราบโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน การเข้าร่วมโครงการฯ และความพึงพอใจต่อโครงการฯ

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ร้อยละ 53.5 ระบุว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินของภาครัฐ และมีร้อยละ 46.5 ที่ทราบ สำหรับผู้ประกอบการที่ทราบโครงการนี้มีร้อยละ 77.2 ไม่ได้เข้าร่วมโครงการฯ และร้อยละ 22.8 เข้าร่วมโครงการฯ โดยในกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการฯ ร้อยละ 88.5 ระบุว่า พึงพอใจต่อโครงการฯ (โดยพอใจมาก ร้อยละ 23.1 ปานกลาง ร้อยละ 34.6 น้อย ร้อยละ 30.8) และไม่พอใจ ร้อยละ 11.5

8. การทราบ และการใช้เว็บท่องเที่ยว 2.0 แพลตฟอร์ม

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ร้อยละ 78.8 ไม่ทราบเกี่ยวกับเว็บท่องเที่ยว 2.0 แพลตฟอร์ม (เป็นเว็บที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสามารถเข้ามาใช้งานต่อเชื่อมเข้ากับระบบ โดยไม่ต้องลงทุนระบบทั้งหมดเอง และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวได้เอง) และมีร้อยละ 21.2 ที่ทราบ

สำหรับผู้ประกอบการในกลุ่มที่ทราบเว็บท่องเที่ยว 2.0 แพลตฟอร์ม พบว่า ร้อยละ 61.5 ได้ใช้เว็บนี้ และร้อยละ 38.5 ไม่ได้ใช้ โดยในกลุ่มที่ใช้เว็บท่องเที่ยวฯ นี้ ร้อยละ 87.5 เห็นว่า เว็บท่องเที่ยว 2.0 แพลตฟอร์มสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจท่องเที่ยวได้ (โดยระบุว่า ช่วยได้มาก ร้อยละ 3.1 ปานกลาง ร้อยละ 65.6 น้อย ร้อยละ 18.8) และไม่ได้ช่วย ร้อยละ 12.5

9. ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยว

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ร้อยละ 40.4 ระบุว่า มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในการช่วยเหลือ/แก้ไขปัญหาด้านการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น ร้อยละ 20.0 ไม่เชื่อมั่น และร้อยละ 39.6 ไม่แน่ใจ/ไม่ทราบ

10.ข้อคิดเห็น/แนวทางที่จะทำให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น

ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ผ่านการประเมินมาตรฐานฯ ในทุกสถานประกอบการ ได้ให้ข้อคิดเห็น/แนวทางต่างๆ ที่คิดว่าจะทำให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนี้ ร้อยละ 53.5 เห็นว่าควรเตรียมแผนเชิงรุก เพื่อรองรับวิกฤตด้านการท่องเที่ยว ร้อยละ 51.4 ควรพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ร้อยละ 44.5 ภาครัฐควรให้ทุนสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และร้อยละ 42.0 ควรพัฒนาบุคคลากรในธุรกิจการท่องเที่ยว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 กรกฎาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ