เรื่อง ขออนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟู
และเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 สำหรับไตรมาสที่ 4 / 2553
คณะรัฐมนตรีอนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินสำหรับไตรมาสที่ 4/2553 ด้วยวิธีการทำสัญญากู้เงิน (Term loan) วงเงิน 60,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับขั้นตอนการกู้เงินตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นเพิ่มเติมของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการเร่งดำเนินการจัดสรรเงินกู้คงเหลือประมาณ 37,000 ล้านบาท และให้มีการผูกพันในสัญญาโดยเร็วไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการคลัง (กค.) รายงานว่า
1. ผลการดำเนินการกู้เงินและการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ.2552 สำหรับไตรมาสที่ 3/2553 ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงินเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 วงเงิน 80,000 ล้านบาท ด้วยการทำสัญญาเงินกู้ (Term loan) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 และ กค. ได้ดำเนินการกู้เงินแล้ว โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
ผู้ให้กู้ งวดที่ 1 วงเงิน 40,000 ล้านบาท งวดที่ 2 วงเงิน 40,000 ล้านบาท ธ.กรุงไทย วงเงิน 40,000 ล้านบาท ธ.กรุงไทยฯ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ธ.ออมสินวงเงิน 20,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย เฉลี่ยร้อยละ 1.32 ต่อปี เฉลี่ยร้อยละ 1.49 ต่อปี ระยะเวลาเงินกู้ 4 ปี 4 ปี ระยะเวลาเบิกจ่ายเงินกู้ 6 เดือน (3 มิ.ย.-3 ธ.ค.2553) 6 เดือน (29 มิ.ย.-29 ธ.ค.2553) ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย ไม่มี ไม่มี สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินกู้ กค. ได้ดำเนินการลงนามในสัญญากู้เงินเมื่อ - วันที่ 21 กันยายน 2552 วงเงิน 30,000 ล้านบาท - วันที่ 15 ธันวาคม 2552 วงเงิน 30,000 ล้านบาท - วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 วงเงิน 45,000 ล้านบาท - วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2553 วงเงิน 45,000 ล้านบาท - วันที่ 3 มิถุนายน 2553 วงเงิน 40,000 ล้านบาท - วันที่ 29 มิถุนายน 2553 วงเงิน 40,000 ล้านบาท โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 230,000 ล้านบาท สำหรับผลการเบิกจ่ายเงินกู้สรุปได้ ดังนี้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เดือน การเบิกจ่ายเงินกู้ การเบิกจ่าย จากบัญชีไทยเข้มแข็ง ก.ย. 2552 15,000,000,000.00 14,871,643,552.04 ต.ค. — ธ.ค.2552 20,000,000,000.00 19,752,238,512.90 ม.ค. — มี.ค.2553 70,000,000,000.00 69,295,777,073.68 เม.ย.- มิ.ย. — 2553 78,000,000,000.00 67,627,120,434.75 ก.ค. 2553 17,000,000,000.00 21,913,960,626.80 รวม 200,000,000,000.00 193,460,740,200.25 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หมายเหตุ ข้อมูลการเบิกจ่าย ณ วันที่ 21 ก.ค.2553 2. แผนการกู้เงินสำหรับไตรมาสที่ 4 / 2553 (ก.ค. — ก.ย. 2553) กค. รายงานว่า สถานะการดำเนินโครงการในปัจจุบัน (21 กรกฎาคม 2553) สำนักงบประมาณได้อนุมัติคำขอจัดสรรแล้ว รวมทั้งสิ้นประมาณ 310,587.72 ล้านบาท และหน่วยงานเจ้าของโครงการได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้ววงเงินประมาณ 256,383.51 ล้านบาท ทั้งนี้ ตามแผนการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้ลงนามผูกพันในสัญญา คาดว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2553 จะมีการเบิกจ่ายรวมทั้งสิ้นประมาณ 98,856 ล้านบาท ประกอบกับขณะนี้ยังคงมีวงเงินกู้คงเหลือประมาณ 37,000 ล้านบาท จึงเห็นควรกำหนดแผนการกู้เงินสำหรับไตรมาสที่ 4/2553 ด้วยวิธีการทำสัญญากู้เงิน (Term loan) วงเงิน 60,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขการกู้เงิน ดังนี้ ผู้กู้ กค. ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย วัตถุประสงค์ เพื่อนำมาใช้สำหรับแผนงานหรือโครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ ระยะเวลาเงินกู้ ไม่เกิน 4 ปี แหล่งเงินกู้ ธนาคารพาณิชย์ที่ประกอบกิจการในประเทศไทย/หรือสถาบันการเงินภาครัฐ อัตราดอกเบี้ย อัตราต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน ประเภทบุคคลธรรมดาของ 4 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (FDR) เฉลี่ย (ธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารกรุงเทพฯ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ฯ และธนาคารกสิกรไทยฯ) หรืออัตราดอกเบี้ย BIBOR ที่ประกาศโดย ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นฐานในการคำนวณอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และ/หรือ บวกส่วน เพิ่มหรือลบส่วนลดตามที่ กค. เห็นสมควร โดยปรับอัตราดอกเบี้ยทุกงวด 6 เดือน หากมี การเปลี่ยนแปลงและการคิดดอกเบี้ยจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีการเบิกจ่ายเงินกู้ ระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้ ภายใน 5 เดือน ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย เป็นไปตามข้อเสนอของแหล่งเงินกู้ ซึ่งจะได้มีการเจรจาต่อรองต่อไปตามที่ กค. เห็นสมควร การชำระคืนต้นเงิน ชำระคืนต้นเงินกู้ทั้งจำนวนเมื่อครบกำหนด การชำระคืนต้นเงินก่อนกำหนด สามารถชำระคืนต้นเงินก่อนกำหนดได้ทั้งจำนวนหรือบางส่วน
ทั้งนี้ กค. จะพิจารณากำหนดแผนการเบิกจ่ายเงินกู้ จำนวนเงิน และระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้เงื่อนไขที่เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในครั้งนี้ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดการเงินและแผนความต้องการใช้เงินในแต่ละโครงการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 สิงหาคม 2553--จบ--