คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอดังนี้
1. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง จัดทำและลงนามในร่างข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลด้านมาตรฐานบังคับแห่งสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ และกรมประมงแห่งราชอาณาจักรไทย ด้านการตรวจสอบและรับรองสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และหากก่อนลงนามมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างข้อตกลงฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้นๆ แทนคณะรัฐมนตรีโดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
2. อนุมัติให้อธิบดีกรมประมง เป็นผู้ลงนามในร่างข้อตกลงฯ
3. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่กรมประมงในการลงนามร่างข้อตกลงฯ
ข้อเท็จจริง
เนื่องด้วยข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบและรับรองผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง และ South African Bureau of Standards (SABS) สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ ฉบับปัจจุบันมีอายุ 5 ปี และได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 กรมประมงและหน่วยงาน SABS เห็นพ้องต้องกันว่า ข้อตกลงดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานและการค้าสินค้าสัตว์น้ำของทั้งสองประเทศ จึงมีการต่ออายุข้อตกลงฯ จำนวน 2 ครั้ง ๆ ละ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งข้อตกลงฯ จะหมดอายุลงอีกครั้งในเดือนกันยายน 2553 กรมประมงจึงเห็นควรจัดทำร่างข้อตกลงฯ ฉบับใหม่ ที่มีระยะเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ประกอบกับหน่วยงาน SABS มีการปรับโครงสร้างหน่วยงานและเปลี่ยนชื่อหน่วยงานเป็น The National Regulator for Compulsory Specifications of South Africa (NRCS) แต่ยังคงทำหน้าที่ด้านตรวจสอบการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเช่นเดิม นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้มีการพัฒนาระบบตรวจสอบให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกันแล้ว จึงเห็นควรปรับเนื้อหาสาระของร่างข้อตกลงฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยร่างข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการฉบับใหม่ที่จะจัดทำขึ้นระหว่างกรมประมงและ NRCS มีสาระสำคัญเช่นเดียวกับข้อตกลงฯ ฉบับปัจจุบัน และมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลข่าวสารด้านกฎระเบียบและมาตรฐานสินค้าสัตว์น้ำระหว่างประเทศ ความร่วมมือระหว่างกันในด้านการตรวจสอบและรับรองความปลอดภัยและคุณภาพของสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ และเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ
สาระสำคัญ
กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหนังสือถึงกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง ขอหารือเกี่ยวกับการลงนามในร่างข้อตกลงทางวิชาการกับหน่วยงานต่างประเทศ โดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ มีหนังสือแจ้งตอบมายังกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความเห็นต่อร่างข้อตกลงฯ ฉบับนี้ว่า ร่างข้อ ตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นความร่วมมือทางวิชาการในด้านประมงเกี่ยวกับการตรวจสอบและรับรองสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์น้ำ โดยการแลกเปลี่ยนข้อสนเทศทางวิชาการและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การร่วมพิจารณาปัญหาที่อาจจะกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคและการร่วมกันฝึกอบรมบุคลากร จึงไม่น่าเป็นหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศ อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น หากส่วนราชการเจ้าของเรื่องสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงฯ ก็ไม่น่าจะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 190 วรรคสองของรัฐธรรมนูญฯ ที่จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 สิงหาคม 2553--จบ--