คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้ง 3 ข้อ ดังนี้
1. อนุมัติการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ครั้งที่ 5 ที่มีวงเงินเพิ่มขึ้น 64,783 ล้านบาท จากวงเงินเดิม 1,646,973.17 ล้านบาท เป็น 1,711,756.17 ล้านบาท
2. อนุมัติการกู้เงิน การค้ำประกัน และการให้กู้ต่อของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ปรับปรุงครั้งที่ 5
3. อนุมัติให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงินในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ปรับปรุงครั้งที่ 5
สาระสำคัญของเรื่อง
กระทรวงการคลัง (กค.) รายงานว่า คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้พิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐบาลและรัฐวิสาหกิจมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงวงเงินบริหารหนี้เดิมและกู้เงินใหม่ จึงได้มีมติเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ครั้งที่ 5 โดยเป็นการปรับปรุงวงเงินในแผนงานย่อย จำนวน 2 แผนงาน ได้แก่ (1) แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล และ (2) แผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ ดังนี้
1. แผนการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล วงเงินเดิม 678,600.00 ล้านบาท ปรับเพิ่ม 42,000.00 ล้านบาท วงเงินหลังการปรับปรุง 720,600.00 ล้านบาท
การปรับเพิ่มวงเงิน 42,000 ล้านบาทดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มวงเงินการบริหารหนี้ของรัฐบาล เพื่อดำเนินการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนครบกำหนดโดยใช้เงินคงคลัง เนื่องจากรัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าที่ประมาณการไว้ ทำให้ระดับเงินคงคลัง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2553 อยู่ที่ 347,439 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่เพียงพอจะนำไปชำระคืนหนี้ได้บางส่วน เพื่อเป็นการลดภาระการชำระหนี้ในอนาคต กระทรวงการคลังจึงได้วางแผนนำเงินคงคลังมาไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนครบกำหนด จำนวน 12 รุ่น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้นำเงินคงคลังมาไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินและคณะรัฐมนตรีได้รับทราบการดำเนินการดังกล่าวแล้ว
2. แผนการก่อหนี้จากต่างประเทศ วงเงินเดิม 99,943.68 ล้านบาท ปรับเพิ่ม 22,783.00 ล้านบาท วงเงินหลังการปรับปรุง 122,726.68 ล้านบาท
การปรับเพิ่มวงเงินดังกล่าวเป็นการปรับเพิ่มวงเงินกู้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะกู้ต่อจากกระทรวงการคลัง เพื่อดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต จำนวน 63,018 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 22,783 ล้านบาท (650.94 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2553 ซึ่งกระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) แล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2552
หลังการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ครั้งที่ 5 จะทำให้ภาพรวมของแผนมีวงเงินเพิ่มขึ้น 64,783 ล้านบาท จาก 1,646,973.17 ล้านบาท เป็น 1,711,756.17 ล้านบาท ซึ่งสรุปตามแผนงานย่อยได้ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
แผน วงเงิน วงเงินหลัง การเปลี่ยนแปลง
แผนเดิม ปรับปรุงครั้งที่ 5
1. การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล 678,600.00 720,600.00 42,000.00
1.1 การกู้เงินกู้ใหม่ 355,600.00 355,600.00 -
1.2 การบริหารหนี้ 323,000.00 365,000.00 42,000.00
2. การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความ 139,171.02 139,171.02 -
เสียหายให้ FIDF
3. การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อฟื้นฟูและ 350,000.00 350,000.00 -
เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
4. การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของ 347,294.76 347,294.76
รัฐวิสาหกิจ
4.1 การกู้เงินใหม่ 125,687.12 125,687.12
4.2 การบริหารและจัดการหนี้ 221,607.64 221,607.64
5. การก่อหนี้จากต่างประเทศ 99,943.68 122,726.68 22,783.00
5.1 รัฐบาลกู้โดยตรง 71,277.20 71,277.20 -
5.2 รัฐบาลค้ำประกัน 28,666.48 28,666.48 -
5.3 รัฐบาลให้กู้ต่อ - 22,783.00 22,783.00
6. การบริหารหนี้ต่างประเทศ 31,963.71 31,963.71
6.1 รัฐบาล 27,740.96 27,740.96
6.2 รัฐวิสาหกิจ 4,222.75 4,222.75
รวม 1,646,973.17 1,711,756.17 64,783.00
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 สิงหาคม 2553--จบ--