ร่างความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 (Schedule 1) ของความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 25, 2010 15:29 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอทั้ง 3 ข้อ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 (Schedule 1) ของความตกลงมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation Agreement : CMIM Agreement)

2. มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทนและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ผู้แทน เป็นผู้ลงนามในความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1

3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือผู้แทน และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามในความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงการคลัง (กค.) รายงานว่า

1. การลงนามในความตกลง CMIM

ไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้ลงนามในความตกลง CMIM ร่วมกันเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2553 ซึ่งทำให้ไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีในความตกลง CMIM อย่างสมบูรณ์แล้ว

2. การปรับเปลี่ยนวงเงินสมทบใน CMIM ของกลุ่มประเทศอาเซียน 5

ในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2553 ณ ประเทศอุซเบกิสถาน ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการปรับเปลี่ยนวงเงินสมทบใน CMIM ของกลุ่มประเทศอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ให้มีสัดส่วนเท่ากันตามหลักการ Equal Sharing โดยฟิลิปปินส์จะเพิ่มวงเงินสมทบจาก 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.552 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเพิ่มวงเงินสมทบใน CMIM ของ ฟิลิปปินส์ในครั้งนี้จะทำให้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ผูกพันวงเงินสมทบลดลงจากเดิมประเทศละ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.552 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ได้จัดทำร่างความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 (Schedule 1) ของความตกลง CMIM (Agreement to Amend Schedule 1 of the Chiang Mai Initiative Multilateralisation Agreement) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียน+3 จะต้องดำเนินการภายในเพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของ 14 ประเทศลงนามในความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 ดังกล่าวภายในเดือนสิงหาคม 2553

3. สาระสำคัญของร่างความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 (Schedule 1) ของความตกลง CMIM มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

3.1 การแก้ไขตารางแนบท้าย 1 นี้ สืบเนื่องจากการขอเพิ่มวงเงินสมทบใน CMIM ของฟิลิปปินส์ จากเดิมที่ได้ผูกพันวงเงินสมทบไว้จำนวน 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.552 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของฟิลิปปินส์มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยสิ้นเดือนมกราคม 2553 ฟิลิปปินส์มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 45.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

3.2 ประเทศสมาชิกอาเซียน 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ได้มีความตกลงร่วมกันก่อนที่ความตกลง CMIM จะมีผลบังคับใช้ว่า จะผูกพันวงเงินสมทบใน CMIM ในสัดส่วนที่เท่ากัน (Equal Sharing) คือเท่ากับ 4.552 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในขณะที่ฟิลิปปินส์ยังไม่สามารถผูกพันวงเงินสมทบได้ตามจำนวนดังกล่าว แต่ผูกพันได้เพียง 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ประเทศสมาชิกอาเซียนอีก 4 ประเทศจะผูกพันวงเงินเพิ่มเติมในส่วนที่ฟิลิปปินส์ไม่สามารถผูกพันได้โดยจะผูกพันวงเงินสมทบประเทศละ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

3.3 การเพิ่มวงเงินสมทบใน CMIM ของฟิลิปปินส์ในครั้งนี้จะทำให้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ผูกพันวงเงินสมทบลดลงจากเดิมจากประเทศละ 4.77 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 4.552 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

3.4 ความตกลงเพื่อแก้ไขตารางแนบท้าย 1 จะมีผลบังคับใช้เมื่อมีการลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและธนาคารกลางของประเทศญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน และกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างน้อย 5 ประเทศ (รวมอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 สิงหาคม 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ