รายงานสรุปเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสบอุบัติเหตุ

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลรายงานสรุปเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสบอุบัติเหตุ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนี้

ตามที่ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง และนายโกวิท ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติราชการเพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ณ จังหวัดน่าน ในวันที่ 17 สิงหาคม 2553 โดยคณะดังกล่าวได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายเลข ทรัพยากร 1103 จากสนามบิน กองบิน 46 จังหวัดพิษณุโลก เวลาประมาณ 07.30 น. เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ดำเนินโครงการปิดทองหลังพระ ในท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ปรากฏว่าเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ขาดการติดต่อจากศูนย์บังคับการบิน จังหวัดน่าน เมื่อเวลา 08.30 น. นั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงได้ดำเนินการปฏิบัติงานการค้นหาและกู้ภัยในเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนี้

1. การปฏิบัติงานค้นหาและกู้ภัยในวันที่ 17 สิงหาคม 2553

1.1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ได้รายงานนายกรัฐมนตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ทราบเรื่องเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่นำคณะปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปตรวจราชการแล้วสูญหายไปในท้องที่จังหวัดน่าน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยดังกล่าวอย่างเต็มที่ และรองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอำนวยการค้นหาและกู้ภัยอย่างใกล้ชิด

1.2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้

1.2.1 ให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการค้นหาและกู้ภัยอากาศยานประเภทเฮลิคอปเตอร์ หมายเลข ทรัพยากร 1103 ณ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือค้นหาและกู้ภัยอากาศยานลำดังกล่าว โดยมีนายชาตรี ช่วยประสิทธิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และนางนิศากร โฆษิตรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

1.2.2 ให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานค้นหาเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ที่ว่าการอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน และประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการค้นหาและกู้ภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน (นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช) เป็นประธานศูนย์ประสานงานฯ และมีองค์ประกอบของคณะทำงาน ได้แก่ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (นายจตุพร บุรุษพัฒน์) ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน (พลตรีชีวัน โหละบุตร) รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช (นายสุวิทย์ รัตนมณี) รองอธิบดีกรมป่าไม้ (นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ) รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน (พันเอกวิจักร สิริบรรสพ) รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน (พันตำรวจเอกสุรเชษฐ โทบุญญานนท์) นายอำเภอนาหมื่น (นายสุรพันธุ์ ตรีมงคล) หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดน่าน (นายธวัช เพชรวีระ) ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน (นายเชิดชัย จิระปัญญา) เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครและราษฎรในท้องที่จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนาหมื่น และโรงพยาบาลจังหวัดน่าน และเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

1.2.3 ประสานงานกับบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด มหาชน หรือ AIS บริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT Telecom และบริษัทโทเทิล แอ็คเช็ส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ตรวจสอบพิกัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือของคณะเดินทางทั้งหมด เพื่อนำมาสนับสนุนการค้นหาตำแหน่งเฮลิคอปเตอร์ ณ จุดสุดท้าย

1.3 เจ้าหน้าที่อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน และราษฎรอาสาในพื้นที่ ได้ดำเนินการติดตามค้นหาเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยผลการค้นหาไม่พบเฮลิคอปเตอร์ที่สูญหาย

1.4 สรุปการปฏิบัติงานของศูนย์ประสานงานฯ ทั้งส่วนกลาง และในพื้นที่ มีดังนี้

1.4.1 การประสานงานของศูนย์ประสานงานฯ ส่วนกลาง มีดังนี้

(1) ประสานงานกองทัพอากาศ ในการจัดหาอากาศยานสนับสนุน การบินกู้ภัยและ ลาดตระเวนทางอากาศ

(2) ประสานงานสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร กระทรวงสาธารณสุข) เพื่อเตรียมการให้การช่วยเหลือด้านสาธารณสุขและการรักษาพยาบาล โดยจัดตั้งหน่วยงานในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุบัติเหตุ ที่โรงพยาบาลนาน้อย และโรงพยาบาลนาหมื่น

(3) ประสานงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมตรวจสอบค้นหาและกู้ภัยเฮลิคอปเตอร์ที่สูญหายในพื้นที่

(4) ประสานศูนย์ประสานงานฯ ในพื้นที่ ในการติดตามความก้าวหน้าในการค้นหาและ การกู้ภัยอย่างต่อเนื่อง และรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงทราบ รวมทั้ง ชี้แจงการดำเนินงาน ต่อสื่อมวลชน

1.4.2 ศูนย์ประสานงานค้นหาเฮลิคอปเตอร์ฯ ในพื้นที่ ได้มีการประชุม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานการประชุม สรุปสถานการณ์และการปฏิบัติงาน ดังนี้

(1) จัดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 4 ลำ (กองทัพบก จำนวน 2 ลำ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 ลำ) บินตรวจสอบบริเวณที่คาดว่าเฮลิคอปเตอร์ที่สูญหายจะลงฉุกเฉิน ในเวลา 17.00 น. เนื่องจากสภาพอากาศเปิด โดยผลการค้นหาไม่พบเฮลิคอปเตอร์ที่สูญหาย

(2) จัดกำลังภาคพื้นดิน ชุดค้นหา กลุ่มที่ 1 จำนวนประมาณ 400 คน ออกเดินเท้าเข้า พื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมพื้นที่ 6,250 ไร่ ในเวลา 20.35 น. เพื่อเดินเท้าค้นหาจนถึงวันรุ่งขึ้น (18 สิงหาคม 2553) ทั้งนี้ สภาพอากาศในช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกต่อเนื่องตลอดคืน ซึ่งที่ประชุมได้มอบภารกิจให้หน่วยงานแต่ละหน่วยรับผิดชอบ ถ้าพบจุดเกิดเหตุให้รีบแจ้งศูนย์ประสานงานฯ ทราบและจุดกองไฟให้สัญญาณตำแหน่งดังกล่าวทันที โดยมีหน่วยงานร่วมค้นหาและกู้ภัย ได้แก่ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ จังหวัดทหารบกน่าน กองทัพภาคที่ 3 กรมทหารพรานที่ 32 ตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง ตำรวจภูธรนาหมื่น-ตำรวจภูธรนาน้อย จังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอนาหมื่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรอาสา จากจังหวัดน่านและจังหวัดใกล้เคียง

1.5 ศูนย์ประสานงานฯ ได้รับการสนับสนุนอากาศยานการค้นหาและกู้ภัย ดังนี้

1.5.1 เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 7 ลำ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก (1) กองทัพอากาศ โดยกองบิน 41 จำนวน 1 ลำ (2) กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 4 ลำ และ (3) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 ลำ

1.5.2 เครื่องบิน C-130 จากกองทัพอากาศ จำนวน 1 เครื่อง

1.5.3 เครื่องบินโดยสาร Jet Stream จากกองทัพบก จำนวน 1 เครื่อง

2. การปฏิบัติงานค้นหาและกู้ภัยในวันที่ 18 สิงหาคม 2553

2.1 ศูนย์ประสานงานฯ ได้รับรายงานว่า ชุดค้นหากลุ่มที่ 1 ในวันที่ 17 สิงหาคม 2553 ยังไม่พบเฮลิคอปเตอร์ที่สูญหาย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดค้นหากลุ่มที่ 1 เข้าทำการค้นหาในบริเวณเดิมอีกครั้ง และได้จัดชุดค้นหากลุ่มที่ 2 จากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ กรมป่าไม้ จำนวน 15 ชุด จำนวนประมาณ 400 นาย เดินเท้าเข้าไปสำรวจค้นหาในพื้นที่เป้าหมายใหม่ รอบบริเวณบ้านน้ำแขว่ง ตั้งแต่เวลา 07.00 น.

2.2 ศูนย์ประสานงานฯ ได้รับรายงานจากชุดค้นหากลุ่มที่ 2 เมื่อเวลา 08.30 น. พบจุดเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุบริเวณพื้นที่เขาสูงชันและมีสภาพป่าทึบ พิกัด 662772 E 2017876 N ในท้องที่บ้านน้ำแขว่ง ตำบล เมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน และพบศพผู้เสียชีวิต จำนวนทั้งหมด 5 ราย คือ นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง นายโกวิท ปัญญาตรง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช พันตรีเจนวิทย์ อรุณสวัสดิ์ นักบิน และสิบเอกวิฑูล เธียรเงิน ช่างเครื่อง จากสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

2.3 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) แม่ทัพภาคที่ 3 (พลโท ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน) และคณะ ได้เดินทางมาติดตามผลการปฏิบัติงานค้นหาและกู้ภัย เมื่อเวลา 10.30 น. ณ ศูนย์ประสานงานฯ ที่ว่าการอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน รวมทั้งบินตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและอำนวยการนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย จากพื้นที่เกิดเหตุกลับกรุงเทพมหานคร และคณะทั้งหมดได้เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 19.30 น.

2.4 การตรวจสอบเหตุการณ์เบื้องต้น พบว่า เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมายเลขทรัพยากร 1103 บินออกจากท่าอากาศยานจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 07.30 น. โดยบินมาพบสภาพอากาศที่มีฝนตกหนัก และสภาพภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงชัน และป่ารกทึบ จนทำให้ประสบอุบัติเหตุ ที่พิกัด 662 772 E 201 7876 N ในท้องที่บ้านน้ำแขว่ง ตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน สภาพเฮลิคอปเตอร์ที่พบมีความเสียหายหนัก ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบและเคลื่อนย้ายซากเฮลิคอปเตอร์ลำ ดังกล่าวออกจากจุดเกิดเหตุต่อไป

3. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะได้พิจารณาบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษขั้นสูงสุด สำหรับข้าราชการและพนักงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสียชีวิตจากการไปปฏิบัติราชการครั้งนี้ และจะสนับสนุนช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดอย่างเต็มที่ต่อไป

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 สิงหาคม 2553--จบ--