คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเร่งรัดการดำเนินการมาตรการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ เพื่อให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางเร่งรัดการดำเนินการสำหรับโครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันเพื่อให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ดังนี้
1. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เร่งรัดการดำเนินการสำหรับโครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการใดได้ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 และเห็นสมควรปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ให้พิจารณานำเงินงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนฯ ไปดำเนินโครงการ/รายการ ดังนี้
1) ดำเนินการตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรี เช่น ค่าสาธารณูปโภค ชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การจ่ายค่างานตามปริมาณที่ทำจริงซึ่งสูงกว่าสัญญา โครงการ/รายการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
2) ดำเนินโครงการ/รายการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
3) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต้องใช้จ่ายงบประมาณเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรร เช่น ราคากลางหรือผลการประกวดราคาสูงกว่างบประมาณที่ได้รับ เป็นต้น
4) ดำเนินโครงการ/รายการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน เช่น แก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม การจ้างงานในชนบท เป็นต้น
5) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ดำเนินการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ถือเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด
6) ดำเนินโครงการ/รายการที่ทำให้เพิ่มผลิตภาพผลผลิต (Productivity)
ทั้งนี้ โครงการ/รายการที่จะดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
- กรณีที่เป็นรายการเดิมที่ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ปรับแผนนำงบประมาณที่ใช้จ่ายไม่ทันไปใช้ได้แต่เฉพาะในรายการอื่น ๆ ที่เป็นรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน หรือโครงการ/รายการ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องจ่ายเงินตามสัญญาเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและไม่เป็นภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
- กรณีที่เป็นโครงการ/รายการใหม่ จะต้องมีความพร้อมที่จะดำเนินการและสามารถก่อหนี้ผูกพันได้ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 และต้องไม่เป็นโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2550
2. สำหรับโครงการ/รายการ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าจะสามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้โดยเร็ว และยังไม่ควรปรับแผนฯ ไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่น เนื่องจากเป็นโครงการ/รายการที่มี ความจำเป็นเพื่อสนองต่อเป้าหมายการให้บริการของกระทรวง และสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จรวมทั้งเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขยายเวลาดำเนินการได้ โดยจะต้องสามารถทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550
กรณีที่รัฐมนตรีอนุมัติให้ขยายเวลาดำเนินการดังกล่าว ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจติดตามเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลา พร้อมทั้งประสานกับผู้รับจ้างเพื่อเตรียมการให้สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายงบประมาณได้โดยเร็ว
3. กรณีโครงการหรือรายการใด ที่ได้ปรับแผนฯ เพื่อนำงบประมาณไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่นแล้ว หากโครงการ/รายการเดิม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ก็ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด เพื่อปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ในขั้นการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และส่งสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ทั้งนี้ การปรับปรุงรายละเอียดดังกล่าวจะต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณของแต่ละกระทรวง โดยคำนึงถึงเป้าหมายการให้บริการของกระทรวงเป็นสำคัญด้วย
อนึ่ง เพื่อให้การดำเนินการและการเบิกจ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยให้เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ
4. ให้สำนักงบประมาณติดตามผลและรายงานการปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนสิงหาคม 2550
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางเร่งรัดการดำเนินการสำหรับโครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันเพื่อให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ดังนี้
1. ให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัด หัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ เร่งรัดการดำเนินการสำหรับโครงการ/รายการที่ยังไม่ได้ทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550กรณีส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันโครงการ/รายการใดได้ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 และเห็นสมควรปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ให้พิจารณานำเงินงบประมาณที่ได้จากการปรับแผนฯ ไปดำเนินโครงการ/รายการ ดังนี้
1) ดำเนินการตามสัญญา กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับและมติคณะรัฐมนตรี เช่น ค่าสาธารณูปโภค ชดเชยค่างานสิ่งก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้ (ค่า K) ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน การจ่ายค่างานตามปริมาณที่ทำจริงซึ่งสูงกว่าสัญญา โครงการ/รายการที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ เป็นต้น
2) ดำเนินโครงการ/รายการ ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่สามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
3) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต้องใช้จ่ายงบประมาณเกินกว่าที่ได้รับการจัดสรร เช่น ราคากลางหรือผลการประกวดราคาสูงกว่างบประมาณที่ได้รับ เป็นต้น
4) ดำเนินโครงการ/รายการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน เช่น แก้ปัญหาภัยแล้ง แก้ปัญหาน้ำท่วม การจ้างงานในชนบท เป็นต้น
5) ดำเนินโครงการ/รายการที่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ดำเนินการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ถือเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด
6) ดำเนินโครงการ/รายการที่ทำให้เพิ่มผลิตภาพผลผลิต (Productivity)
ทั้งนี้ โครงการ/รายการที่จะดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ในเงื่อนไข ดังนี้
- กรณีที่เป็นรายการเดิมที่ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ซึ่งไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ตามแผนที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 ให้ปรับแผนนำงบประมาณที่ใช้จ่ายไม่ทันไปใช้ได้แต่เฉพาะในรายการอื่น ๆ ที่เป็นรายการผูกพันข้ามปีงบประมาณซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้แล้ว และสามารถดำเนินการได้เร็วกว่าแผน หรือโครงการ/รายการ ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไม่เพียงพอ และมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องจ่ายเงินตามสัญญาเป็นลำดับแรก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาวินัยทางการคลังและไม่เป็นภาระงบประมาณในปีงบประมาณต่อ ๆ ไป
- กรณีที่เป็นโครงการ/รายการใหม่ จะต้องมีความพร้อมที่จะดำเนินการและสามารถก่อหนี้ผูกพันได้ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 และต้องไม่เป็นโครงการ/รายการผูกพันข้ามปีงบประมาณ โดยสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2550
2. สำหรับโครงการ/รายการ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ไม่สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2550 หากส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจพิจารณาแล้วเห็นว่าจะสามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้โดยเร็ว และยังไม่ควรปรับแผนฯ ไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่น เนื่องจากเป็นโครงการ/รายการที่มี ความจำเป็นเพื่อสนองต่อเป้าหมายการให้บริการของกระทรวง และสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จรวมทั้งเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจขออนุมัติต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อขยายเวลาดำเนินการได้ โดยจะต้องสามารถทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันได้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2550
กรณีที่รัฐมนตรีอนุมัติให้ขยายเวลาดำเนินการดังกล่าว ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจติดตามเร่งรัดการดำเนินงานให้แล้วเสร็จทันตามกำหนดเวลา พร้อมทั้งประสานกับผู้รับจ้างเพื่อเตรียมการให้สามารถดำเนินการและเบิกจ่ายงบประมาณได้โดยเร็ว
3. กรณีโครงการหรือรายการใด ที่ได้ปรับแผนฯ เพื่อนำงบประมาณไปดำเนินการโครงการ/รายการอื่นแล้ว หากโครงการ/รายการเดิม ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการและมีความพร้อมที่จะดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ก็ให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจเสนอต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด เพื่อปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ในขั้นการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และส่งสำนักงบประมาณ ภายในวันที่ 25 พฤษภาคม 2550 ทั้งนี้ การปรับปรุงรายละเอียดดังกล่าวจะต้องอยู่ในกรอบวงเงินงบประมาณของแต่ละกระทรวง โดยคำนึงถึงเป้าหมายการให้บริการของกระทรวงเป็นสำคัญด้วย
อนึ่ง เพื่อให้การดำเนินการและการเบิกจ่ายงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควรให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 โดยให้เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้สามารถทำสัญญา/ก่อหนี้ผูกพันได้ตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณ
4. ให้สำนักงบประมาณติดตามผลและรายงานการปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณให้คณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนสิงหาคม 2550
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 พฤษภาคม 2550--จบ--