แท็ก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
มหาวิทยาลัยบูรพา
โรงแรมคอนราด
กรมการปกครอง
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูแล้งปี 2550 ครั้งที่ 8 สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์น้ำ
1. สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 22 เมษายน 2550 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 47,257 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 69 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มากกว่าปี 2549 (44,430 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,827 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 9,006 และ 6,016 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 67 และ 63 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯรวมกัน จำนวน 15,022 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มลดลง
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ มีทั้งหมด 6 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี
อ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 28 30 35 29 25 และ 36 ตามลำดับ ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับในช่วงฤดูแล้งนี้ และไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพน้ำท่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
แม่น้ำยม สภาพน้ำท่า อยู่ในเกณฑ์น้อย
แม่น้ำโขง และแม่น้ำมูล สภาพน้ำนอนคลอง
3. คุณภาพน้ำ สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำนครนายก อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 19 เมษายน 2550 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 — 30 เมษายน 2550)
ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 10 เมษายน 2550 มีพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ จำนวน 14.87 ล้านไร่ แยกเป็น ข้าวนาปรัง 12.19 ล้านไร่ มากกว่าเป้าหมายคิดเป็นร้อยละ 23 (ในเขตชลประทาน 8.77 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 3.42 ล้านไร่) และพืชไร่-พืชผัก จำนวน 2.68 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 94 ของเป้าหมาย (ในเขตชลประทาน 0.78 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 1.90 ล้านไร่)
พื้นที่การเกษตรประสบภัยแล้ง ณ วันที่ 20 เมษายน 2550
ด้านพืช ช่วงภัยระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2549 ถึง 20 เมษายน 2550 ได้รับรายงานพื้นที่ประสบภัยแล้ง จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ตาก พิจิตร แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสมุทรปราการ
เกษตรกร 16,110 ราย พื้นที่ประสบภัย 167,063 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 127,913 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 34,608 ไร่ พืชไร่ 78,730 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 14,575 ไร่
พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเชียงราย ตาก ลำปาง และบุรีรัมย์ จำนวน 21,501 ไร่โดยจังหวัดลำปางใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดช่วยเหลือแล้วจำนวน 170,226 บาท
ด้านปศุสัตว์ ช่วงภัยระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ถึง 20 เมษายน 2550 ได้รับรายงานสัตว์ได้รับผลกระทบ จำนวน 22 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น มุกดาหาร บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู ชัยนาท ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชุมพร ตรัง และนราธิวาส
เกษตรกร 25,944 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,166,470 ตัว แยกเป็น โค-กระบือ 183,548 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 44,468 ตัว และสัตว์ปีก 938,454 ตัว โดยจังหวัดปราจีนบุรีใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดช่วยเหลือแล้วจำนวน 768,900 บาท
ด้านประมง ช่วงภัยระหว่างวันที่ 19 มีนาคม 2550 ถึง 28 มีนาคม 2550 ได้รับรายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด เนื่องจากปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำ คือ จังหวัดเลย และเชียงใหม่ เกษตรกร 11 รายประสบภัย 27 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 622 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 22 เมษายน 2550 ได้ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศแล้ว 17,889 ล้านลูกบาศก์เมตร
2. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
- เครื่องสูบน้ำ จำนวน 837 เครื่อง ในพื้นที่ 61 จังหวัด (เพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จำนวน 762 เครื่อง และเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 75 เครื่อง)
- รถยนต์บรรทุกน้ำ ขนส่งน้ำช่วยเหลือ 5,069 เที่ยว คิดเป็น 30.41 ล้านลิตร
3. การปฏิบัติการฝนหลวง
- จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 จำนวน 9 หน่วย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุบลราชธานี อุดรธานี ระยอง อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และฐานเติมสารฝนหลวงจำนวน 4 ฐาน ได้แก่ จังหวัดตาก นครราชสีมา จันทบุรี และสระแก้ว
- เน้นปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณจังหวัดต่างๆ ที่มีผู้ขอรับบริการฝนหลวงในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 38 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย ตาก ลำปาง ลำพูน น่าน พิจิตร อุตรดิตถ์ ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ยโสธร หนองคาย มหาสารคาม เลย ร้อยเอ็ด อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชลบุรี สระแก้ว ตราด ปราจีนบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สตูล นครศรีธรรมราช และสงขลา
- ผลการปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ -19 เมษายน 2550 ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 1,196 เที่ยวบิน มีฝนตกในพื้นที่ 65 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก น่าน กำแพงเพชร ชัยนาท สุพรรณบุรี นครสวรรค์ กรุงเทพฯ อุทัยธานี ลพบุรี กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี นครพนม ขอนแก่น เลย มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย ร้อยเอ็ด อุดรธานี สกลนคร ยโสธร มหาสารคาม ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช พังงา ปัตตานี ภูเก็ต ตรัง กระบี่ สตูล สงขลา ชุมพร นราธิวาส พัทลุง ยะลา
4. การสนับสนุนเสบียงสัตว์ สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 421,844 กิโลกรัม แร่ธาตุ 126 ก้อน ดูแลสุขภาพสัตว์ 23,256 ตัว (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 325 ตัว)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2550--จบ--
สถานการณ์น้ำ
1. สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ณ วันที่ 22 เมษายน 2550 มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 47,257 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 69 ของความจุอ่างฯทั้งหมด มากกว่าปี 2549 (44,430 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,827 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯทั้งหมด
อ่างเก็บน้ำภูมิพลและอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯทั้งหมด 9,006 และ 6,016 ล้านลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 67 และ 63 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯรวมกัน จำนวน 15,022 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มลดลง
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาตรน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าร้อยละ 40 ของความจุอ่างฯ มีทั้งหมด 6 อ่างฯ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนลำนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี
อ่างเก็บน้ำเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวง จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำเขื่อนปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีปริมาตรน้ำคิดเป็นร้อยละ 28 30 35 29 25 และ 36 ตามลำดับ ซึ่งปริมาณน้ำมีเพียงพอสำหรับในช่วงฤดูแล้งนี้ และไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำแต่อย่างใด
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง แม่น้ำน่าน และแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพน้ำท่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
แม่น้ำยม สภาพน้ำท่า อยู่ในเกณฑ์น้อย
แม่น้ำโขง และแม่น้ำมูล สภาพน้ำนอนคลอง
3. คุณภาพน้ำ สภาพความเค็มในแม่น้ำสายหลัก ณ จุดเฝ้าระวังของแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำนครนายก อยู่ในเกณฑ์ปกติ ณ วันที่ 19 เมษายน 2550 (เกณฑ์ค่าความเค็ม น้ำเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2.0 กรัม/ลิตร)
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง (วันที่ 1 พฤศจิกายน 2549 — 30 เมษายน 2550)
ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 10 เมษายน 2550 มีพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ จำนวน 14.87 ล้านไร่ แยกเป็น ข้าวนาปรัง 12.19 ล้านไร่ มากกว่าเป้าหมายคิดเป็นร้อยละ 23 (ในเขตชลประทาน 8.77 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 3.42 ล้านไร่) และพืชไร่-พืชผัก จำนวน 2.68 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 94 ของเป้าหมาย (ในเขตชลประทาน 0.78 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 1.90 ล้านไร่)
พื้นที่การเกษตรประสบภัยแล้ง ณ วันที่ 20 เมษายน 2550
ด้านพืช ช่วงภัยระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2549 ถึง 20 เมษายน 2550 ได้รับรายงานพื้นที่ประสบภัยแล้ง จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย ตาก พิจิตร แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ อุทัยธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ หนองคาย หนองบัวลำภู ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสมุทรปราการ
เกษตรกร 16,110 ราย พื้นที่ประสบภัย 167,063 ไร่ พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 127,913 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 34,608 ไร่ พืชไร่ 78,730 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 14,575 ไร่
พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเชียงราย ตาก ลำปาง และบุรีรัมย์ จำนวน 21,501 ไร่โดยจังหวัดลำปางใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดช่วยเหลือแล้วจำนวน 170,226 บาท
ด้านปศุสัตว์ ช่วงภัยระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ถึง 20 เมษายน 2550 ได้รับรายงานสัตว์ได้รับผลกระทบ จำนวน 22 จังหวัด คือ จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ขอนแก่น มุกดาหาร บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู ชัยนาท ปราจีนบุรี สระแก้ว เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชุมพร ตรัง และนราธิวาส
เกษตรกร 25,944 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 1,166,470 ตัว แยกเป็น โค-กระบือ 183,548 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 44,468 ตัว และสัตว์ปีก 938,454 ตัว โดยจังหวัดปราจีนบุรีใช้เงินทดรองราชการของจังหวัดช่วยเหลือแล้วจำนวน 768,900 บาท
ด้านประมง ช่วงภัยระหว่างวันที่ 19 มีนาคม 2550 ถึง 28 มีนาคม 2550 ได้รับรายงานพื้นที่ได้รับผลกระทบ 2 จังหวัด เนื่องจากปริมาณออกซิเจนในน้ำต่ำ คือ จังหวัดเลย และเชียงใหม่ เกษตรกร 11 รายประสบภัย 27 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 622 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ณ วันที่ 22 เมษายน 2550 ได้ระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศแล้ว 17,889 ล้านลูกบาศก์เมตร
2. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ
- เครื่องสูบน้ำ จำนวน 837 เครื่อง ในพื้นที่ 61 จังหวัด (เพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง จำนวน 762 เครื่อง และเพื่อการอุปโภคบริโภค จำนวน 75 เครื่อง)
- รถยนต์บรรทุกน้ำ ขนส่งน้ำช่วยเหลือ 5,069 เที่ยว คิดเป็น 30.41 ล้านลิตร
3. การปฏิบัติการฝนหลวง
- จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 จำนวน 9 หน่วย ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุบลราชธานี อุดรธานี ระยอง อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และฐานเติมสารฝนหลวงจำนวน 4 ฐาน ได้แก่ จังหวัดตาก นครราชสีมา จันทบุรี และสระแก้ว
- เน้นปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณจังหวัดต่างๆ ที่มีผู้ขอรับบริการฝนหลวงในช่วงฤดูแล้ง จำนวน 38 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย ตาก ลำปาง ลำพูน น่าน พิจิตร อุตรดิตถ์ ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ยโสธร หนองคาย มหาสารคาม เลย ร้อยเอ็ด อุดรธานี นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชลบุรี สระแก้ว ตราด ปราจีนบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สตูล นครศรีธรรมราช และสงขลา
- ผลการปฏิบัติการ ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ -19 เมษายน 2550 ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 1,196 เที่ยวบิน มีฝนตกในพื้นที่ 65 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ตาก แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก น่าน กำแพงเพชร ชัยนาท สุพรรณบุรี นครสวรรค์ กรุงเทพฯ อุทัยธานี ลพบุรี กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ปทุมธานี นครพนม ขอนแก่น เลย มุกดาหาร กาฬสินธุ์ หนองคาย ร้อยเอ็ด อุดรธานี สกลนคร ยโสธร มหาสารคาม ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี ตราด จันทบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ปราจีนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี ระนอง นครศรีธรรมราช พังงา ปัตตานี ภูเก็ต ตรัง กระบี่ สตูล สงขลา ชุมพร นราธิวาส พัทลุง ยะลา
4. การสนับสนุนเสบียงสัตว์ สนับสนุนพืชอาหารสัตว์ 421,844 กิโลกรัม แร่ธาตุ 126 ก้อน ดูแลสุขภาพสัตว์ 23,256 ตัว (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 325 ตัว)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 เมษายน 2550--จบ--