การจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครราชสีมา (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง)

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกำหนดการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครราชสีมา (ขอเปลี่ยนแปลงมติคณะรัฐมนตรีเดิมเฉพาะแห่ง) ตามมติคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 4/2553 เพื่อให้หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้

1. การจำแนกประเภทที่ดินพื้นที่ “ป่าแม่ออน” จังหวัดเชียงใหม่ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2536 ใหม่ ดังนี้

1.1 รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ (แปลงปลูกป่าปี 2537)

1.2 จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อมอบเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น เนื้อที่ประมาณ 660 ไร่ จำนวน 106 แปลง

2. การจำแนกประเภทพื้นที่ “ป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก” จังหวัดนครราชสีมา ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2506 ใหม่ ดังนี้

2.1 รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 408 ไร่ และมอบให้กรมป่าไม้รับไปดำเนินการ

2.2 จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น เนื้อที่ประมาณ 4,549 ไร่ และมอบให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รับไปดำเนินการตามแนวทางมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 ประกอบกับในพื้นที่อำเภอปากช่องได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเป็นเขตปฏิรูปที่ดิน ทั้งอำเภอแล้ว เมื่อ พ.ศ. 2534 ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

สาระสำคัญของเรื่อง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) รายงานว่า

1. ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (21 มิถุนายน 2509 และ 15 เมษายน 2536) เห็นชอบให้ “ป่าแม่ออน” เป็น ป่าไม้ถาวร และต่อมาได้จำแนกพื้นที่บางส่วนป่าแม่ออนออกจากการเป็นป่าไม้ถาวร นั้น

1.1 ปี 2548 ราษฎรได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อแก้ปัญหาพื้นที่ทำกิน ซึ่งจากการสำรวจพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าแม่ออน” แต่อยู่ในพื้นที่ที่มติคณะรัฐมนตรีให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร และมีพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ปลูกป่า ปี 2537 แปลง 1 เนื้อที่ 250 ไร่ จังหวัดเชียงใหม่ จึงมีหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ขอให้พิจารณาดำเนินการหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรตามอำนาจหน้าที่

1.2 ในการประชุมคณะอนุกรรมการจำแนกประเภทที่ดินประจำจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2550 เมื่อวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2550 ที่ประชุมได้มีมติให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการพัฒนาที่ดินพิจารณาพื้นที่สำรวจเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ เนื้อที่ประมาณ 660 ไร่ เพื่อเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น ส่วนพื้นที่แปลงปลูกป่า ปี 2537 เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ให้เก็บไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม

1.3 ต่อมาได้มีพระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน พ.ศ. 2551 ประกาศใช้ คณะอนุกรรมจำแนกประเภทที่ดินประจำจังหวัดเชียงใหม่ ปี 2550 ยังไม่ได้นำมติที่ประชุม (ข้อ 1.2) เสนอคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดเชียงใหม่จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ได้เคยพิจารณาไว้เดิม (ข้อ 1.2) ดังนี้

1.3.1 ให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ (แปลงปลูกป่าปี 2537)

1.3.2 ให้จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น เนื้อที่ประมาณ 660 ไร่ จำนวน 106 แปลง

1.4 คณะกรรมการพัฒนาที่ดินได้ประชุมครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553 มีมติเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ (ข้อ 1.3)

2. สำหรับป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก จังหวัดนครราชสีมา ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (12 พฤศจิกายน 2506 และ 3 มีนาคม 2530) นั้น

2.1 เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของระบบการทำแผนที่และการถ่ายทอดแนวเขตจากแผนที่มาตรการส่วน 1 : 50,000 สู่ระวางรูปถ่ายทางอากาศ มาตราส่วน 1 : 4,000 ซึ่งได้มีการตรวจและรับรองแนวเขตตามอำนาจหน้าที่แล้วทำให้ยังมีพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนฯ บางส่วนไม่ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ราษฎรในพื้นที่ดังกล่าวจึงได้ร้องต่อองค์การบริหารส่วนตำบลหนองน้ำแดงว่าได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้

2.2 กรมพัฒนาที่ดินจึงได้ตั้งคณะทำงานอันประกอบด้วยหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอต่อคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณาตามแนวทางของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540

2.3 ในการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2553 ได้มีมติเห็นชอบการจำแนกประเภทที่ดิน จำนวน 64 แปลง เนื้อที่ประมาณ 4,957 ไร่ ดังนี้

2.3.1 รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิม เนื้อที่ประมาณ 408 ไร่ (เฉพาะส่วนที่ยังมีสภาพเป็นป่าไม้และเป็นพื้นที่ป่ารอสภาพฟื้นฟู)

2.3.2 จำแนกออกจากป่าไม้ถาวรเพื่อเป็นที่ทำกินของราษฎรหรือใช้ประโยชน์อย่างอื่น 4,549 ไร่ เนื่องจากได้มีราษฎรเข้าทำการถือครองและใช้ประโยชน์ทั้งหมดแล้ว และให้จัดส่งมติที่ประชุมให้คณะกรรมการพัฒนาที่ดินพิจารณาตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ต่อไป

2.4 ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553 ได้มีมติเห็นชอบผลตามการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ข้อ 2.3)

3. กษ.พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรและการรักษาพื้นที่ป่าไม้ของชาติ รวมทั้งเป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาที่ดินจึงจำเป็นต้องนำเรื่องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเพื่อให้รักษาพื้นที่ที่ยังมีสภาพเป็นป่าไว้เป็นป่าไม้ถาวรตามเดิมและจำแนกพื้นที่ที่ไม่มีสภาพเป็นป่าเหลืออยู่และมีราษฎรเข้าถือครองและทำประโยชน์แล้วออกจากเขตป่าไม้ถาวรเพื่อให้เป็นที่ทำกินของราษฎรหรือเพื่อใช้ประโยชน์อย่างอื่นให้เป็นการถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 สิงหาคม 2553--จบ--