คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสรุปผลการสำรวจภาวะการทำงานของประชากร เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานสถิติแห่งชาติ ว่าได้ทำการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรเป็นประจำทุกเดือน โดยสอบถามประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีครัวเรือนตกเป็นตัวอย่าง 26,520 ครัวเรือนต่อเดือน สำหรับในเดือนมิถุนายนพ.ศ. 2553 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงาน จำนวนผู้ว่างงานลดลง 8.8 หมื่นคน (จาก 5.47 แสนคน เป็น 4.59 แสนคน) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนที่ผ่านมา (พฤษภาคม พ.ศ. 2553) จำนวนผู้ว่างงานลดลง 1.27 แสนคน (จาก 5.86 แสนคน เป็น 4.75 แสนคน) สำหรับสาระสำคัญการสำรวจสรุปได้ ดังนี้
1. ผู้อยู่ในกำลังแรงงาน
ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนทั้งสิ้น 38.75 ล้านคน ประกอบด้วย ผู้มีงานทำ 38.10 ล้านคน ผู้ว่างงาน 4.59 แสนคน และผู้ที่รอฤดูกาล 1.94 แสนคน ทั้งนี้ ผู้ที่อยู่ในกำลังแรงงาน มีจำนวนลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 จำนวน 2.1 แสนคน (จาก 38.96 ล้านคน เป็น 38.75 ล้านคน)
2. ผู้มีงานทำ
ผู้มีงานทำ 38.10 ล้านคน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 จำนวน 2.6 แสนคน (จาก 38.36 ล้านคน เป็น 38.10 ล้านคน) หรือลดลงร้อยละ 0.7 ซึ่งมีผู้ทำงานเพิ่มขึ้นและลดลงในสาขาต่างๆ ได้ดังนี้
(1) ผู้ทำงานเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผู้ทำงานในสาขาการขายส่ง ขายปลีกฯ เพิ่มขึ้น 4.5 แสนคน (จาก 5.76 ล้านคน เป็น 6.21 ล้านคน) สาขาการก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 3.4 แสนคน (จาก 2.13 ล้านคน เป็น 2.47 ล้านคน) สาขาการบริหารราชการแผ่นดินฯ 1.8 แสนคน (จาก 1.26 ล้านคน เป็น 1.44 ล้านคน) สาขาการผลิต 1.6 แสนคน (จาก 5.30 ล้านคน เป็น 5.46 ล้านคน) สาขาการโรงแรมและภัตตาคาร 1.3 แสนคน (จาก 2.43 ล้านคน เป็น 2.56 ล้านคน) สาขากิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ฯ 4 หมื่นคน (จาก 0.77 ล้านคน เป็น 0.81 ล้านคน) สาขาการบริการชุมชนฯ 2 หมื่นคน (จาก 0.79 ล้านคน เป็น 0.81 ล้านคน) สาขาการทำเหมืองแร่ฯ 1 หมื่นคน (จาก 0.03 ล้านคน เป็น 0.04 ล้านคน) ตามลำดับ
(2) ผู้ทำงานลดลง ได้แก่ ผู้ทำงานในสาขาเกษตรกรรม ลดลง 1.43 ล้านคน (จาก 15.98 ล้านคน เป็น 14.55 ล้านคน) สาขาการขนส่งฯ 2.0 หมื่นคน (จาก 1.20 ล้านคน เป็น 1.18 ล้านคน) สาขาการเงินการธนาคาร 1.0 หมื่นคน (จาก 0.42 ล้านคน เป็น 0.41 ล้านคน) ตามลำดับ
3. ผู้ว่างงาน
(1) ผู้ว่างงานทั่วประเทศมีจำนวน 4.59 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.2 ของกำลังแรงงานรวม (ลดลง 8.8 หมื่นคน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552) ประกอบด้วย ผู้ว่างงานที่ไม่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 1.81 แสนคน อีกส่วนหนึ่งเป็นผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อนจำนวน 2.78 แสนคน โดยเป็นผู้ว่างงานที่มาจากภาคการผลิต 1.20 แสนคน ภาคการบริการและการค้า 1.15 แสนคน และภาคเกษตรกรรม 4.3 หมื่นคน
(2) ผู้ว่างงานเป็นผู้มีการศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา จำนวน 1.96 แสนคน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 8.6 หมื่นคน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.9 หมื่นคน ระดับประถมศึกษา 5.6 หมื่นคน และไม่มีการศึกษาและต่ำกว่าประถมศึกษา 4.2 หมื่นคน ตามลำดับ
(3) ผู้ว่างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.30 แสนคน ภาคกลาง 1.18 แสนคน ภาคเหนือ 9.1 หมื่นคน ภาคใต้ 8.0 หมื่นคน และกรุงเทพมหานคร 4.0 หมื่นคน หากคิดเป็นอัตราการว่างงาน ภาคใต้เป็นภาคที่มีอัตราการว่างงานสูงสุด ร้อยละ 1.5 ส่วนภาคที่มีอัตราการว่างงานต่ำสุดเป็นกรุงเทพมหานครและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่ากันคือ ร้อยละ 1.0
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 31 สิงหาคม 2553--จบ--