มาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 204 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนกันยายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 8, 2010 17:27 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลมาตรการกำกับดูแลสินค้าสำคัญ 204 รายการ และบริการ 20 รายการ ประจำเดือนกันยายน 2553 ของกระทรวงพาณิชย์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอดังนี้

ตามที่กระทรวงพาณิชย์โดยกรมการค้าภายใน ได้มีการกำหนดระดับความสำคัญของสินค้าที่ต้องติดตามดูแล 204 รายการ และบริการ 20 รายการ เป็นประจำทุกเดือนตามสถานการณ์หรือปัจจัยการผลิตที่เปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นเครื่องมือในการติดตามดูแลราคาสินค้าและเป็นสัญญาณเตือนภัยในระดับปฏิบัติการ ซึ่งได้รายงานการจัดระดับความสำคัญของสินค้า ให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นประจำทุกเดือนแล้ว นั้น

การดำเนินการ

สำหรับในเดือนกันยายน 2553 ได้ประเมินและคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ด้านราคาและปริมาณของสินค้าและบริการ โดยได้ปรับเปลี่ยนการจัดระดับความสำคัญของสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม เป็นดังนี้

1. กลุ่ม Sensitive List (SL) สินค้า 6 รายการ ได้แก่ (1) อาหารปรุงสำเร็จ ราคาวัตถุดิบหลักคือเนื้อสัตว์และพืชผักทุกชนิดโดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง (2) น้ำตาลทราย แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกจะจะปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2553 แต่ราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศยังอยู่ในระดับสูง (3) น้ำมันเบนซิน (4) น้ำมันดีเซล ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูเฮอร์ริเคนที่เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ในบริเวณอ่าวเม็กซิโก (5) เหล็กแผ่นเคลือบดีบุก และ (6) เหล็กแผ่นเคลือบโครเมี่ยม ราคาวัตถุดิบทรงตัวอยู่ในระดับสูง และบริการ 1 รายการ ได้แก่ บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์รับส่งโทรสาร สืบเนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและส่งผลต่อราคาสินค้า

2. กลุ่ม Priority Watch List (PWL) สินค้า 10 รายการ ได้แก่ (1) นมผง ราคานมผงขาดมันเนยปรับตัวลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดมาก (2) น้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึกราคาเม็ดพลาสติกซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตภาชนะบรรจุ สูงขึ้นตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง (3) น้ำมันพืช เนื่องจากปริมาณผลปาล์มออกสู่ตลาดลดลง เพราะฝนตกชุกส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น และราคาเมล็ดถั่วเหลือง ปรับสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น (4) ก๊าซ LPG หุงต้ม ราคาก๊าซ LPG ลดลงเนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคลดลง สำหรับราคาจำหน่ายปลีกยังคงตรึงราคาไว้จนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 (5) เหล็กเส้น (6) เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ และ (7) เหล็กแผ่น (รีดร้อน รีดเย็น และสแตนเลส) ราคาวัตถุดิบยังทรงตัวในระดับสูง ภาวะการค้าซบเซาและความต้องการใช้ชะลอตัว (8) ปูนซีเมนต์ราคาค่าพลังงานถ่านหินปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดโลกและความต้องการใช้ (9) สายไฟฟ้า ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้ของผู้ใช้มีอย่างต่อเนื่อง (10) ปุ๋ยเคมี เริ่มมีการซื้อขายปุ๋ยยูเรียเพิ่มขึ้นในตลาดโลกจากประเทศปากีสถานและอินเดีย เพื่อเตรียมสินค้าไว้ใช้ในประเทศ และบริการ 1 รายได้ ได้แก่ บริการซ่อมรถ

3. กลุ่ม Watch List (WL) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นปกติยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีปัญหาทั้งด้านราคาและปริมาณสินค้าที่จำหน่าย ซึ่งจะทำการติดตาม ตามปกติ จำนวน 188 รายการ และบริการ 18 รายการ

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 กันยายน 2553--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ