คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ ส่วนงบประมาณในการดำเนินโครงการ ฯ ให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณดังนี้
1. เพิ่มวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงอาคารที่ทำการ สศช. จาก 130,866,000 บาท เป็น 138,218,000 บาท (หนึ่งร้อยสามสิบแปดล้านสองแสนหนึ่งหมื่นแปดพันบาทถ้วน) ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปี งบประมาณ พ.ศ. 2553-2555 รวมระยะเวลา 3 ปี ตามเหตุผลและความจำเป็นที่ สศช. เสนอ โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกันไว้เบิกเหลื่อมของปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 จำนวน 9,056,000 บาท สมทบกับงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้กันไว้เบิกเหลื่อมปีของปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 จำนวน 8,000,000 บาท และงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 13,500,000 บาท โดยผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 จำนวน 26,173,400 บาท และ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 อีกจำนวน 81,488,600 บาท
2. ดำเนินการก่อสร้างปรับปรุงอาคาร 2 สศช. พร้อมรั้ว ประตูรั้วและป้ายชื่อสำนักงานฯ ในลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2554-2555 รวมระยะเวลา 2 ปี ในวงเงินไม่เกิน 51,000,000 บาท (ห้าสิบเอ็ดล้านบาทถ้วน) โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เหลือจ่าย จำนวน 26,000,000 บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 เหลือจ่าย จำนวน 26,000,000 บาท และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 จำนวน 25,000,000 บาท ตามเหตุผลและความจำเป็นที่ สศช. เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
1. สศช. ได้จ้างที่ปรึกษาออกแบบการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จ โดยคณะกรรมการได้กำหนดราคากลาง วงเงิน 139.922 ล้านบาท ซึ่งเกินกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไว้ 130.866 ล้านบาท สศช.จึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 9.056 ล้านบาท และปรับระยะเวลาในการดำเนินการให้สอดคล้องกับงวดงาน
2. ขณะนี้ สสช.และสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ยังไม่อาจย้ายสถานที่ปฏิบัติงานไปศูนย์ราชการได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจาก สสช. มีความจำเป็นต้องใช้อาคาร 5 และ 6 เป็นศูนย์กลางในการประสานงาน โครงการสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2553 โดยจะขอใช้พื้นที่ปฏิบัติงานจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 สศช. จึงไม่สามารถลงนามผูกพันในสัญญาว่าจ้างได้ภายในปีงบประมาณ 2553
3. นอกจากนี้ สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ได้แจ้งยกเลิกการขอเข้าใช้พื้นที่ อาคาร 2 สสช.ให้กลับมาเป็นสิทธิของ สศช. เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (10 มิถุนายน 2551) อย่างไรก็ตาม การออกแบบปรับปรุงอาคารที่ทำการ สศช. ยังไม่รวมการปรับปรุงอาคาร 2 ของ สสช. ดังนั้น สศช.จึงมีความจำเป็นต้องขอผูกพันงบประมาณเพื่อปรับปรุงอาคารดังกล่าวสำหรับเป็นห้องประชุม ห้องสมุด ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร ที่ทำการมูลนิธิพัฒนาไท และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาประเทศตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนการเสริมสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของสถานที่และข้อมูลที่สำคัญของ สศช. ซึ่งจากการประมาณการในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินงบประมาณทั้งสิ้น 51 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2553 สศช. มีเงินงบประมาณเหลือจ่ายที่สามารถนำไปโอนเปลี่ยนแปลงเป็นค่าก่อสร้างดังกล่าวได้ จำนวน 26 ล้านบาท
อนึ่ง สศช. ไม่สามารถใช้เงินงบประมาณในส่วนที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ได้ทันก่อน สิ้นปีงบประมาณ เนื่องจากต้องรอให้ สศช.และ สพร. ย้ายสถานที่ปฏิบัติงานไปที่ศูนย์ราชการก่อน จึงมีความจำเป็นต้องขออนุมัติขยายระยะเวลาเบิกจ่ายและกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 กันยายน 2553--จบ--